นายวิรัช กาญจนพิบูลย์ รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้ปรับแผนการผลิตไฟฟ้า ที่โรงไฟฟ้าบางปะกงจากการใช้ก๊าซธรรมชาติไปใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิง และได้ปรับแผนการบำรุงรักษา โดยชะลอการหยุดเดินเพื่อบำรุงรักษาเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะ โรงไฟฟ้าราชบุรี และโรงไฟฟ้าวังน้อยออกไปก่อน หลังจากที่ บมจ. ปตท (PTT) ได้หยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งบงกช ในอ่าวไทย เพื่อซ่อมแซม โดยมีกำหนดแล้วเสร็จตั้งแต่วานนี้ (10 ต.ค.52) แต่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งส่งผลให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติ ขาดหายไปจากระบบผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. จำนวน 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ส่งผลให้ กฟผ.ต้องปรับแผนการผลิตไฟฟ้าเพื่อรักษาระบบไฟฟ้าของประเทศ โดยไม่กระทบต่อการใช้ไฟฟ้าของประชาชน
ซึ่งการปรับแผนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. อย่างเร่งด่วนนี้สามารถรองรับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนในวันที่ 10-11 ต.ค.52 ซึ่งเป็นวันหยุด ประชาชนมีการใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าวันปกติ นอกจากนี้ กฟผ. ยังไม่มีการระบายน้ำจากเขื่อนต่างๆ ของ กฟผ. เพื่อช่วยเสริมการผลิตไฟฟ้าแต่อย่างใด
สำหรับในวันพรุ่งนี้ (12 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันทำการปกติ มีปริมาณการใช้ไฟฟ้ามาก หากแหล่งบงกชยังไม่สามารถจ่ายก๊าซฯ ให้แก่โรงไฟฟ้าได้ตามปกติ กฟผ. จำเป็นต้องปรับแผนการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยจะมีการปรับเปลี่ยนโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ที่ใช้ก๊าซธรรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเปลี่ยนเป็นน้ำมันดีเซลแทน ซึ่งขณะนี้สั่งการให้เตรียมพร้อมแล้ว กฟผ.
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า จะดูแลระบบไฟฟ้าให้จ่ายไฟฟ้าได้อย่างเป็นปกติ ไม่ให้ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน