ดอยช์ ลุฟท์ฮันซ่า เอจี และ แอร์ ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม กรุ๊ป สายการบินยักษ์ใหญ่ของยุโรปกำลังหาทางควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนในส่วนของค่าธรรมเนียมการก๊าซปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สายการบินทั้งสองกำลังปรับลดสัดส่วนของเงินทุนสำหรับการซื้อใบอนุญาตปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายใต้โครงการลดก๊าซเรือนกระจกของสหภาพยุโรปที่มีผลบังคับใช้ปี 2555 ขณะที่เยอรมัน แอร์ไลน์ แอร์ เบอร์ลิน เปิดเผยเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า ข้อบังคับฉบับใหม่ของอียูอาจทำให้ภาคธุรกิจการบินใช้เงินเพิ่มขึ้นอีกราว 1.5 พันล้านยูโร (2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี ซึ่งนั่นอาจฉุดรั้งผลกำไรหรืออาจส่งผลให้สายการบินต้องขึ้นราคาตั๋วโดยสารให้แพงขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ ลุฟท์ฮันซ่าอาจซื้อใบอนุญาตปล่อยก๊าซคาร์บอนเพื่อลดต้นทุนลงราว 250 ล้านยูโร/ปี ในปีหน้า แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะมีสัดส่วน 18% ของผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในปีที่แล้วก็ตาม
ด้านแอร์ฟรานซ์อาจใช้ข้อตกลงทางการเงินมาใช้ในการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อใบอนุญาตปล่อยก๊าซคาร์บอนราว 100 ล้านยูโร/ปี โดยสายการบินได้ประมาณการณ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนที่ 30 ยูโร/ตัน ซึ่งสูงกว่าราคาสัญญาเดือนธ.ค.ที่ประมาณ 13.80 ยูโร
บลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาค่าธรรมเนียมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อตันในปีนี้เหวี่ยงตัวสูงสุดที่ 16.04 ยูโรจากระดับต่ำสุดที่ 8.05 ยูโร โดยอ้างอิงจากราคาที่กำหนดโดยอียูสำหรับเดือนธ.ค.2552
ทั้งนี้ อียูมีแผนที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการกำหนดให้ทุกสายการบินที่บินผ่านน่านฟ้ายุโรปจ่ายค่าธรรมเนียมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่นักวิทยาศาสตร์มองว่าเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน