สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียร่วงลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางในเอเชียจะสกัดกั้นการแข็งค่าของสกุลเงินในประเทศเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมส่งออก
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 1.13 น.ตามเวลากรุงโซล ค่าเงินวอนเกาหลีใต้ร่วงลง 0.4% แตะที่ 1,168.80 วอน/ดอลลาร์ ดอลลาร์ไต้หวันอ่อนตัวลง 0.1% แตะที่ 32.275 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ไต้หวัน ริงกิตมาเลเซียขยับลง 0.2% แตะที่ 3.4057 ริงกิต/ดอลลาร์ ดอลลาร์สิงคโปร์ร่วงลง 0.56% แตะที่ 1.4006 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบ 2 เดือน
ส่วนค่าเงินบาทของไทยขยับลง 0.09% แตะที่ 33.35 บาท/ดอลลาร์ ค่าเงินเปโซฟิลิปปินส์ร่วงลง 0.2% แตะที่ 46.545 เปโซ/ดอลลาร์ ค่าเงินรูเปียห์อินโดนีเซียดิ่งลง 0.3% แตะที่ 9,485 รูเปียห์/ดอลลาร์ ค่าเงินรูปีอินเดียอ่อนตัวลง 0.4% แตะที่ 46.605 รูปี/ดอลลาร์ และค่าเงินหยวนทรงตัวที่ 6.8252 หยวน
แพทริค เบนเนทท์ นักวิเคราะห์จากธนาคารโซซิเอเต เจเนอราล ในฮ่องกงกล่าวว่า ธนาคารกลางในเอเชียแสดงความวิตกกังวลว่าการแข็งค่าของสกุลเงินในประเทศตนเองกำลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมส่งออก ซึ่งท่าทีดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางในเอเชียอาจเข้าแทรกแซงตลาดอีกรอบเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมส่งออกของตนเอง
ธนาคารกลางหลายแห่งในเอเชียเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ธนาคารกลางฮ่องกง ธนาคารกลางไต้หวัน ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ และธนาคารกลางอินโดนีเซีย เพื่อทำให้สกุลเงินในประเทศของตนเองอ่อนค่าลง โดยธนาคารกลางส่วนใหญ่มองว่าการร่วงลงของดอลลาร์เป็นปัจจัยคุกคามต่อเศรษฐกิจของประเทศเอเชียที่ต้องพึ่งพาการส่งออก