World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2552

ข่าวต่างประเทศ Monday October 12, 2009 16:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มาร์คส แอนด์ สเปนเซอร์ กรุ๊ป (M&S) ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกเสื้อผ้ารายใหญ่สุดของอังกฤษ เตรียมประกาศแผนการขยายสาขาในตลาดต่างประเทศและแผนการกระตุ้นยอดขายออนไลน์ หลังจากที่ยอดขายในตลาดอังกฤษลดลงมาโดยตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

-- ล็อตเต้ ช็อปปิ้ง โค เจ้าของห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้เดินหน้าเจรจาซื้อหุ้นใหญ่ในบริษัท ไทมส์ เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตของจีน โดยนับเป็นการเปิดศึกชิงชัยกับคู่แข่งอย่างวูมาร์ท สโตร์ อิงค์ ซึ่งติดต่อไทมส์เพื่อขอซื้อหุ้นเช่นกัน

-- สมาคมเหล็กโลก (World Steel Association) คาดการณ์ว่า ภาวะซบเซาในตลาดเหล็กกล้าทั่วโลกได้สิ้นสุดลงแล้ว และคาดว่าความต้องการเหล็กกล้าทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 9.2% แตะระดับ 1.2 พันล้านตันในปีหน้าเพราะได้แรงหนุนจากดีมานด์ในสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่นที่ดีดตัวขึ้น ขณะเดียวสมาคมเหล็กโลกคาดว่า ความต้องการเหล็กทั่วโลกในปีนี้จะลดลง 8.6% สู่ระดับ 1.104 พันล้านตัน ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลดลง 14%

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติมาเลเซียรายงานในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของมาเลเซียประจำเดือนส.ค. ซึ่งรวมถึงผลผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค และเหมืองแร่ ลดลง 5.7% จากปีที่แล้ว นับเป็นสถิติที่ลดลงน้อยที่สุดในรอบ 10 เดือน และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 6% เนื่องจากภาวะหดตัวในภาคส่งออกของมาเลเซียเริ่มทุเลาลงหลังจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมาเลเซียจะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยในไม่ช้านี้

-- นายวลาดิเมียร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย เดินทางถึงประเทศจีนในวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระชับความสัมพันธ์ในด้านพลังงาน เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันให้กับจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของรัสเซีย โดยในปีนี้ รัสเซียได้ทำสัญญาส่งออกน้ำมันกับจีนไปแล้วมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ และล่าสุดก็อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติกับบริษัทไชน่า โอเอโอ ก๊าซพรอม

-- สำนักข่าวเพรส ทรัสต์ ออฟ อินเดีย รายงานว่า อินเดียประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธ Prithvi พิสัยภาคพื้นดินสู่ภาคพื้นดิน ที่มีสมรรถนะเทียบเท่าอาวุธนิวเคลียร์ จำนวน 2 ลูกในวันนี้

-- ฟิลิปปินส์ ผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่สุดของโลก มีแผนนำเข้าข้าวมากขึ้นหลังพื้นที่เพาะปลูกในประเทศได้รับความเสียหายจากพายุที่พัดถล่ม ขณะที่สต็อกข้าวทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงอีกและอาจก่อให้เกิดวิกฤตอาหารโลกได้

-- กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์เปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ขยายตัว 14.9%ต่อปี หลังจากขยายตัวอย่างแข็งแกร่งถึง 22%ต่อปี ในไตรมาส 2


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ