นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า พรุ่งนี้(13 ต.ค.)เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณากรอบวงเงินลงทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเพิ่มเติมอีก 2.4 แสนล้านบาท จากเดิมที่ ครม.อนุมัติกรอบวงเงินลงทุนไปแล้ว 1.06 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้ยอดวงเงินลงทุนดังกล่าวเพิ่มเป็น 1.3 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้จะเสนอโครงการเพื่อใช้เม็ดเงินที่เหลือจากการชดเชยเงินคงคลังอีก 5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของรัฐในปี 52 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยต้นปีงบประมาณ 53 มีระดับเงินคงคลังอยู่ที่ 2.9 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่เข้มแข็งและน่าพอใจ ไม่น่าจะเกิดปัญหาเรื่องการบริหารเงินสดของรัฐบาลในปีงบประมาณ 53
รมว.คลัง กล่าวว่า สำหรับกรอบวงเงินลงทุน 2.4 แสนล้านบาทนั้นส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในโครงการประกันราคาพืชผลทางการเกษตรประมาณ 4 หมื่นล้านบาท, สมทบงบประมาณขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นอีก 2.3 หมื่นล้านบาท รวมทั้งโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และโครงการอื่นๆ
และในสัปดาห์หน้ากระทรวงการคลังจะเสนอรายละเอียดโครงการต่างๆ ที่ขอใช้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ จำนวน 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้เห็นความชัดเจนของการใช้จ่ายเงินทั้งหมด 3.5 แสนล้านบาท
ส่วนความโปร่งใสในการตรวจสอบโครงการไทยเข้มแข็งนั้น รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะรายงานความคืบหน้าการเบิกจ่ายงบประมาณให้ ครม.รับทราบทุกสัปดาห์ และเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.tkk2555.com พร้อมทั้งประสานสำนักงบประมาณให้เปิดเผยข้อมูลการเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้จะเปิดเว็บไซต์ www.publicwatchtkk2555.com เพื่อให้ประชาชนแจ้งเบาะแสการทุจริตได้ด้วย โดยกรมบัญชีกลางจะเป็นผู้กรองข้อมูลดังกล่าวก่อนที่จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการติดตามและประเมินผลฯ ดำเนินการต่อไป