นิวซีแลนด์เผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.พุ่ง 1.1% ส่งสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวครึ่งปีหลัง

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 13, 2009 09:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์รายงานว่า ยอดค้าปลีกประจำเดือนส.ค.ของนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 1.1% จากเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่าที่ 0.5% ส่วนยอดค้าปลีกที่ไม่นับรวมยอดขายยานยนต์และเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้น 1.2% นับเป็นหลักฐานชิ้นใหม่ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจนิวซีแลนด์มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

รายงานระบุว่า ยอดขายผ้าและเสื้อผ้าที่พุ่งขึ้น 6.5% ในเดือนส.ค.เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนยอดค้าปลีกโดยรวมในนิวซีแลนด์ทะยานขึ้นเกินคาด ขณะที่ยอดขายสินค้าในร้านฮาร์ดแวร์เพิ่มขึ้น 7.2% ยอดขายที่ร้านเฟอร์นิเจอน์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนยอดขายในซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของยอดขายโดยรวม ลดลง 0.2% และยอดขายในห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น 2.4%

เฮเลน เคแวนส์ นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนเปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเพิ่มการจับจ่ายใช้สอย และช่วยพยุงเศรษฐกิจนิวซีแลนด์ให้ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ที่แข็งค่าขึ้นอาจทำให้นายอลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังจากมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.5% ในการประชุมเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา

นายจอห์น คีย์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจนิวซีแลนด์จะหลุดพ้นจากภาวะถดถอยรุนแรงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้นช่วยให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้นด้วย

"เราเชื่อว่าเศรษฐกิจในประเทศหลุดพ้นจากภาวะถดถอยรุนแรงแล้วและเริ่มเข้าสู่ระยะฟื้นตัว และในขณะที่เศรษฐกิจในประเทศเริ่มส่อเค้าขยายตัวนั้น เศรษฐกิจในประเทศอื่นๆก็เริ่มฟื้นตัวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะเปราะบาง ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะขยายตัวอย่างยั่งยืน" นายคีย์กล่าว บลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ