ออสเตรเลียเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.พุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี แม้แบงค์ชาติขึ้นดบ.

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 14, 2009 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เวสต์แพค แบงกิ้ง คอร์ป ร่วมกับสถาบันวิจัยเมลเบิร์น รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของออสเตรเลียประจำเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.7% แตะระดับ 121.4 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี สะท้อนให้เห็นว่า การที่ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างพลิกความคาดหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนของออสเตรเลีย

บิล อีแวนส์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากเวสต์แพค แบงค์ ในซิดนีย์ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นมา เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายเกล็น สตีเฟ่น ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 3.25% จากเดิม 3.0% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะค่อยๆชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

"ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีสะท้อนให้เห็นว่าภาคครัวเรือนของออสเตรเลียยังคงจับจ่ายใช้สอยและไม่ได้เปลี่ยนแผนการใช้จ่ายในอนาคต แม้ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกในกลุ่ม G20 ที่ดอกเบี้ยก็ตาม" อีแวนส์กล่าว

นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนพ.ย.นี้ หลังจากอัตราว่างงานในประเทศร่วงลงแตะระดับ 5.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย 40,600 ตำแหน่ง

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งมีความสอดคล้องกับความคิดเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียที่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียจะขยายตัว 3% ในปีหน้า หลังจากรัฐบาลทุ่มงบประมาณ 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคและมอบเช็คเงินสดช่วยเหลือภาคครัวเรือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ