นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐจะร่วงลง 2.1% ซึ่งเป็นจะเป็นสถิติที่ลดลงมากที่สุดในปีนี้ หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายรถยนต์ที่ร่วงลงหลังจากรัฐบาลสหรัฐยุติการใช้โครงการนำรถยนต์คันเก่าแลกคันใหม่
แซล กวาติเอรี หัวหน้านักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets กล่าวว่า "ยอดขายรถยนต์ที่ดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ย.เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในสหรัฐไม่สามารถฟื้นตัวอย่างยั่งยืนได้หากปราศจากมาตรการช่วยเหลือจากสหรัฐ โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ผู้บริโภคย่อมต้องการมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลมากเป็นพิเศษ เราคาดว่าสถานะด้านการเงินของผู้บริโภคจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องนำมาประกอบการพิจารณาว่าควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่"
บลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ย.ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย