ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดไปอีกระยะหนึ่ง ขณะที่สกุลเงินอื่นๆแข็งแกร่งขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลการค้าที่แข็งแกร่งของจีน และข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของอังกฤษและยุโรป
บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.42% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4918 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4856 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.36% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.380 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.700 เยน/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.64% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0152 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.0217 ฟรังค์/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.28% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.5969 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.5925 ปอนด์/ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.59% แตะที่ 0.9136 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.9082 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.05% แตะที่ 0.7386 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7390 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
วาเซลลี เซอร์เบียคอฟ นักวิเคราะห์จากธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ในนิวยอร์กกล่าวว่า นักลงทุนกระหน่ำขายสกุลเงินดอลลาร์หลังจากรายงานการประชุมของเฟดระบุว่า คณะกรรมการเฟดเห็นชอบให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสร้างแรงกดดันให้กับดอลลาร์อย่างมาก เพราะอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำจะยิ่งทำให้มูลค่าเงินดอลลาร์อ่อนแอลง
"นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ยังทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์เนื่องจากผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่แห่งนี้สะท้อนว่าภาคการเงินของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว นักลงทุนจึงเข้าซื้อสกุลเงินอื่นที่มีความเสี่ยงมากกว่าแต่ให้อัตราผลตอบแทนมากกว่า" เซอร์เบียคอฟกล่าว
เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยกำไรไตรมาส 3 พุ่งขึ้นแตะ 3.59 พันล้านดอลลาร์ หรือ 82 เซนต์ต่อหุ้น จากระดับ 527 ล้านดอลลาร์ หรือ 9 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์โพลล์บลูมเบิร์กคาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 51 เซนต์ต่อหุ้น
ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเผยตัวเลขว่างงานในช่วง 3 เดือนจนถึงส.ค.ปรับตัวขึ้น 88,000 ราย นับเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 1 ปี ขณะที่จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 20,800 รายในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 24,500 ราย
ส่วนค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร 16 ประเทศ หรือ ยูโรโซน ดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน และเมื่อเทียบกับเดือนส.ค. 2551 ที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมในยูโรโซนลดลง 15.4%