ลอมบาร์ด สตรีท รีเสิร์ช แนะนำให้อินเดียใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อเหมือนกับที่พอล วอล์คเกอร์ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้เคยนำมาใช้เมื่อช่วงต้นทศวรรษ 80
มายา บันดารี นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของลอมบาร์ด สตรีท กล่าวว่า อินเดียอาจจะจำเป็นต้องใช้นโยบายแบบที่วอล์คเกอร์ใช้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้น โดยราคาผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นในอินเดียนั้น ไม่ได้แตกต่างจากระดับในสหรัฐในช่วงที่วอล์คเกอร์ได้ทำหน้าที่เป็นประธาน FED ซึ่งวอล์คเกอร์ได้ผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นถึง 20% เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงสุดที่ 14.8% เมื่อเดือนมี.ค. 2523
ลอมบาร์ด สตรีทชี้ว่า ธนาคารกลางอินเดียอาจจะประยุกต์ใช้นโยบายที่ใกล้เคียงกับวอล์คเกอร์ เพื่อควบคุมแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ขยายตัวขึ้นและรุนแรง ขณะที่นายดุฟวูรี ซับบาราว ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียกล่าวว่า อินเดียอาจจะต้องดำเนินการก่อนที่เศรษฐกิจจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มจะก่อตัวขึ้น
ธนาคารกลางอินเดียได้ลดดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ในช่วงเดือนต.ค. 2551 และเม.ย.ปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะปกป้องเศรษฐกิจประเทศจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยครั้งรุนแรง โดยแบงค์ชาติอินเดียจะเปิดเผยแถลงการณ์ด้านนโยบายในวันที่ 27 ต.ค.นี้
จากประกาศเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ของธนาคารกลางนั้น ธนาคารได้คงอัตราดอกเบี้ย reverse-repurchase ไว้ที่ 3.25% และคงอัตราดอกเบี้ย repurchase ไว้ที่ 4.75%
นายมันโมฮัน ซิง นายกรัฐมนตรีอินเดียยังได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศณษฐกิจ รวมทั้งธนาคารกลางก็ลดดอกเบี้ยลง ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศสูงกว่า 12%