World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2552

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 15, 2009 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เตือนว่า อัตราการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตและการสำรวจน้ำมันที่ลดลงอย่างหนักอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในอนาคต

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 22-23 ก.ย.ซึ่งระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันว่าควรจะขยายหรือระงับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากเฟดประกาศใช้โครงการดังกล่าวเป็นเวลาหลายเดือน ภายใต้เป้าหมายที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยกู้จำนองให้ปรับตัวลดลง ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ฟิ้นตัวขึ้นอีกทางหนึ่ง โดยคณะกรรมการเฟดบางคนมองว่าเฟดสมควรยุติการใช้โครงการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเนื่องจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจได้บรรเทาลงแล้ว

-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนก.ย.พุ่งขึ้น 18.9% มูลค่า 7.9 พันล้านดอลลาร์ จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่และเมืองขนาดกลางปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนก.ย. เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐในเดือนก.ย.อ่อนตัวลง 1.5% หลังจากที่ยอดขายรถร่วงลงเพราะนโยบายรถเก่าแลกรถใหม่ที่รัฐบาลได้นำมาใช้ก่อนหน้านี้หมดอายุลงแล้ว อย่างไรก็ดี ยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลงนี้ยังดีว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะร่วงลง 2.1%

-- เกลน สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเต็มสูบในอนาคต หลังจากที่ประเทศรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ ขณะที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่าแบงก์ชาติออสเตรเลียจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 3 พ.ย.นี้

-- ศาลจีนมีคำสั่งลงโทษประหารชีวิตผู้ร่วมก่อเหตุจราจลในเขตปกครองตนเองซินเจียง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 รายอีก 6 ราย หลังจากที่สาลจีนได้ตัดสินให้มีการประหารชีวิตผู้ร่วมก่อเหตุจราจลไป 6 รายเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา

-- องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติเผยวิกฤตการณ์อาหารในกลุ่มประเทศยากจน ประกอบกับวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลกตกต่ำได้ส่งผลกระทบให้จำนวนผู้ยากไร้ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคขาดสารอาหารจะพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2513 ที่กว่า 1 พันล้านคนในปีนี้

-- ตัวแทนเจรจาการค้าระดับสูงของสหรัฐเผยข้อตกลงการค้าเสรีหลายฉบับในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยังอยู่ในระดับที่ด้อยประสิทธิภาพ ซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจสร้างความบิดเบือนทางการค้ากับประเทศอื่นๆ

-- ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวสรุปหลังการเยือนรัสเซียเป็นเวลา 3 วันว่า สหรัฐและรัสเซียควรร่วมกันสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธเพื่อรับมือกับการคุกคามที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งทางการรัสเซียก็แสดงความสนใจไม่น้อยเช่นกัน

-- โรช โฮลดิ้งส์ เอจี (Roche Holding AG) ซึ่งเป้นผู้ผลิตยารายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 9% แตะระดับ 3.64 หมื่นล้านฟรังค์สวิส หรือ 3.593 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากยอดขายยาต้านมะเร็งและไข้หวัดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

-- สหภาพยุโรป (อียู) และเกาหลีใต้เตรียมลงนามข้อตกลงการค้าเสรีครั้งใหญ่ที่สุดในโลกนับตั้งแต่ปี 2537 ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมในวันนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นความพยายามในการกระตุ้นให้เศรษฐกิจโลกหลุดพ้นจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปี

-- ยอดค้าปลีกสิงคโปร์ในเดือนส.ค.ปรับตัวลดลง 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

-- เรียลตี้แทรค อิงค์ (RealtyTrac Inc) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนบ้านที่ถูกยึดในสหรัฐในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 937,840 หลัง หรือเพิ่มขึ้น 23% จากปีที่แล้ว เนื่องจากธนาคารผู้ปล่อยกู้ได้ยึดอสังหาริมทรัพย์จากผู้กู้ที่ผิดนัดชำระเงินมากขึ้น

-- แอลจี ดิสเพลย์ บริษัทผู้ผลิตจอแอลซีดีรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกเผยกำไรไตรมาส 3 ปีนี้ พุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่า หลังจากที่ดีมานด์โทรทัศน์จอแบนช่วยหนุนราคาจอสูงขึ้น โดยรายได้สุทธิของแอลจี ดิสเพลย์เพิ่มขึ้น 89.5% แตะ 5.59 แสนล้านวอน หรือ 483 ล้านดอลลาร์ จากระดับปีที่แล้วที่ 2.95 แสนล้านวอน ขณะที่นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กนิวส์ได้สำรวจความคิดเห็นคาดว่า รายได้สุทธิจะเพิ่มขึ้น 8.47 แสนล้านวอน

-- ราคาแฟลตหรูในฮ่องกงพุ่งทำสถิติสูงสุดของโลกด้วยราคาถึง 767,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (113,900 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตารางเมตร ทำลายสถิติเดิมของแฟลตหรูในลอนดอนที่ราคา 6,000 ปอนด์ต่อตารางฟุต (105,090 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร)

-- บริษัท เอ็กสตราต้า พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ของยุโรป ยืนยันในวันนี้ว่า บริษัทจะไม่เข้าซื้อกิจการของบริษัท แองโกล อเมริกา พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองคู่แข่ง ทำให้โอกาสในการควบรวมกิจการระหว่างสองบริษัทหมดสิ้นลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ