นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย(TMB)ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า ผลประกอบการของธนาคารไตรมาส 3/52 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.9% จากไตรมาส 2/52 ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลอยู่ที่ 2.3% ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/52 รายได้ค่าธรรมเนียม ปรับตัวดีขึ้น 9.1% จากไตรมาสก่อนหน้า
"ภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และการลดลงของผลกระทบจากโครงการ Branch Transformation ซึ่งทำให้สินเชื่อของธนาคารเริ่มทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/52 ที่ลดลง 1.2% เป็นอัตราลดลงที่ต่ำสุดในปีนี้"นายบุญทักษ์ กล่าว
ธนาคารยังคงรักษาความแข็งแกร่งด้านสภาพคล่องที่สูง มีอัตราส่วนสินเชื่อต่อยอดเงินฝากอยู่ที่ 85.9% ไตรมาส 2/52 ที่อยู่ที่ 86.1% และมีสัดส่วนบัญชีกระแสรายวันและออมทรัพย์ (CASA) เพิ่มขึ้นเป็น 52.4% ซึ่งสะท้อนถึงแผนงานของธนาคารที่มุ่งเน้นเงินฝากเป็นสำคัญ
คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงเหลือ 59,144 ล้านบาท เทียบกับสิ้นเดือน มิ.ย.52 ที่อยู่ที่ 59,884 ล้านบาท การปรับตัวของคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีสะท้อนถึงความพยายามอันต่อเนื่องของธนาคารในการยกระดับการจัดการความเสี่ยงตั้งแต่ปลายปี 51 นอกจากนี้ ธนาคารมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) อยู่ที่ 16.2% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กำหนด
ทั้งนี้ ธนาคารได้ดำเนินโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดโดยสมัครใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการธนาคารและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาด มีพนักงานเข้าร่วมโครงการโดยสมัครใจทั้งสิ้น 1,187 คน และธนาคารตั้งสำรองค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก จำนวน 442 ล้านบาท