โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลบ 67.03 จุด หรือ 0.7% ปิดที่ 9,995.91 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลบ 8.88 จุด หรือ 0.8% ปิดที่ 1,087.68 จุด และดัชนี Nasdaq ลบ 16.49 จุด หรือ 0.8% ปิดที่ 2,156.80 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดเหนือระดับ 78 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) หลังเงินดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ดึงดูดใจนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.บวก 95 เซนต์ ปิดที่ 78.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) หลังเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ลดลงมากเกินคาดในเดือนตุลาคมและสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยากลำบาก ทำให้นักลงทุนหันมาทุ่มลงทุนในทองคำ เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยจากทั้งภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. บวก 90 เซนต์ ปิดที่ 1,051.50 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(16 ต.ค.) หลังจากที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนเมื่อเทียบเงินยูโรในช่วงต้นสัปดาห์
โดยเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 1.4893 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4943 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และแข็งค่าแตะ 90.900 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 90.550 เยน/ดอลลาร์
นอกจากนั้นเงินดอลลาร์ยังแข็งค่าแตะ 1.0183 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ จาก 1.0146 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ และแข็งค่าแตะ 0.9170 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 0.9209 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย รวมถึงแข็งค่าแตะ 0.7391 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7443 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) หลังบริษัทหลายแห่งในสหรัฐเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง รวมถึงบริษัท เจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ที่เปิดเผยร่วงลง 44% เพราะ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 32.71 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 5,190.24 จุด