นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ.ปตท.(PTT)เปิดเผยว่า จากการที่รถไฟได้หยุดให้บริการในบางเส้นทางตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.นั้น ในส่วนของ ปตท.ยังคงให้บริการส่งก๊าซแอลพีจีและน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้ตามปกติ และไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ปตท.มีการขนส่งก๊าซแอลพีจีทางรถไฟไปเฉพาะที่คลังปิโตรเลียมนครสวรรค์และคลังปิโตรเลียมขอนแก่นเท่านั้น ส่วนในพื้นที่อื่นๆ ใช้วิธีการขนส่งก๊าซแอลพีจีทางรถยนต์ไปที่คลังปิโตรเลียมลำปาง และขนส่งทางเรือไปยังคลังปิโตรเลียมบางจาก คลังปิโตรเลียมสุราษฎร์ธานี และคลังปิโตรเลียมสงขลา สำหรับการจัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นใช้วิธีการขนส่งทางรถยนต์และทางท่อเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่มีผลกระทบใดต่อสถานการณ์ครั้งนี้
ทั้งนี้ ปตท.มีแผนรองรับหากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น ด้วยการใช้การขนส่งก๊าซแอลพีจีทางรถยนต์เพื่อทดแทนการขนส่งทางรถไฟ โดยจะเพิ่มจำนวนรถขนส่งก๊าซแอลพีจีจากปกติที่ใช้รถขนส่งจำนวน 80 คัน เป็นจำนวน 120 คัน ซึ่งจะสามารถรองรับความต้องการใช้ก๊าซแอลพีจีในภูมิภาคได้อย่างเพียงพอ