ฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (อีซีบี) กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมรมว.คลังยุโรปที่ลักเซ็มเบิร์กว่า รัฐมนตรีในกลุ่มประเทศยุโรปจริงจังกับคำมั่นสัญญาของสหรัฐที่ว่าจะสกัดกั้นสกุลเงินดอลลาร์ไม่ให้อ่อนตัวลงมากเกินไป
"เราจริงจังกับทุกคำมั่นสัญญาที่ทางการสหรัฐให้ไว้ โดยเฉพาะเรื่องการสนับสนุนนโยบายดอลลาร์แข็งค่า เราเห็นด้วยกับที่ประชุม G7 ที่ว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนและเคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจถือเป็นสิ่งที่บั่นทอนเสถียรภาพทั้งในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศและเศรษฐกิจโลก ซึ่งทางยุโรปจะติดตามสถานการณ์เงินดอลลาร์อย่างใกล้ชิด เพราะเราเชื่อว่าระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพถือเป็นรากฐานที่สำคัญของระบบการเงินด้วย" ทริเชต์กล่าว
ด้านนายฌอง-คล้อด จังเกอร์ รมว.คลังของลักเซ็มเบิร์กซึ่งเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า รมว.คลังในกลุ่มประเทศยุโรปหารือกันเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งปัญหาเหล่านี้สร้างความกังวลให้กับรมว.คลังยุโรปอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อสกุลเงินยูโรดิ่งลงเกือบ 20% เมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.พ. ซึ่งทำให้ราคาสินค้าส่งออกในยุโรปแพงขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ซื้อในต่างประเทศ และยังขัดขวางกระบวนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปด้วย
ขณะที่คริสทีน ลาการ์ด รมว.คลังฝรั่งเศสกล่าวว่า "เราต้องการให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ากว่านี้ เราจะติดตามดูว่าสหรัฐจะสามารถรักษาคำมั่นสัญญาเรื่องการสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งแกร่งขึ้นได้หรือไม่"
บลูมเบิร์กรายงานว่า นายทริเชต์และนายจังเกอร์จะเดินทางเยือนประเทศจีนร่วมกับนายโจควิน อัลมูเนีย คณะกรรมการด้านการเงินแห่งสหภาพยุโรปภายในปีนี้ เพื่อหารือในประเด็นอัตราแลกเปลี่ยน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ได้เดินทางไปเยือนจีนเมื่อ 2 ปีก่อนเพื่อผลักดันจีนให้หนุนสกุลเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้น ซึ่งคำร้องขอในครั้งนั้นถูกยับยั้งโดยนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า