ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์ฟื้นตัว หลังข้อมูลอสังหาฯอ่อนแอหนุนนลท.แห่ซื้อเงินดอลล์

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 21, 2009 07:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ปอนด์ และฟรังค์ อีกทั้งดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดและตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนตัวลง ซึ่งกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าถือครองดอลลาร์และชะลอการเข้าซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า

บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.15% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.720 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 90.580 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลง 0.20% เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ 1.4933 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4963 ยูโร/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังขยับขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0121 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0111 ฟรังค์/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6366 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6408 ปอนด์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.58% แตะที่ 0.9230 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9284 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1% แตะที่ 0.7487 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7563 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด 0.5% แตะที่ 590,000 ยูนิตในเดือนก.ย. และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างลดลง 1.2% แตะที่ 573,000 ยูนิตในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะอยู่ที่ 610,000 ยูนิต และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างจะอยู่ที่ 610,000 ยูนิตในเดือนก.ย.

ไบรอัน โดแลน นักวิเคราะห์จาก FOREX.com กล่าวว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตสร้างบ้านที่อ่อนแอในสหรัฐได้กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าถือครองดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในภาวะเปราะบาง

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรปได้ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐรักษาคำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งแกร่ง โดยนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (อีซีบี) กล่าวว่ารัฐมนตรีในกลุ่มประเทศยุโรปจริงจังกับคำมั่นสัญญาของสหรัฐที่ว่าจะสกัดกั้นสกุลเงินดอลลาร์ไม่ให้อ่อนตัวลงมากเกินไป พร้อมกล่าวว่ายุโรปเห็นด้วยกับที่ประชุม G7 ที่ว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนและเคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจถือเป็นสิ่งที่บั่นทอนเสถียรภาพทั้งในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศและเศรษฐกิจโลก

ด้านนายฌอง-คล้อด จังเกอร์ รมว.คลังของลักเซ็มเบิร์กกล่าวว่า รมว.คลังในกลุ่มประเทศยุโรปหารือกันเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งปัญหาเหล่านี้สร้างความกังวลให้กับรมว.คลังยุโรปอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อสกุลเงินยูโรดิ่งลงเกือบ 20% เมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.พ. ซึ่งทำให้ราคาสินค้าส่งออกในยุโรปแพงขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ซื้อในต่างประเทศ และยังขัดขวางกระบวนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปด้วย

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ส่วนวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ย. และวันศุกร์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ