นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศในเดือน ก.ย.52 ว่า การส่งออกมีมูลค่า 14,905 ล้านดอลลาร์ ลดลง 8.53% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกถือว่าสูงสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 12,925 ล้านดอลลาร์ ลดลง 17.9% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 1,980 ล้านดอลลาร์
สำหรับช่วง 9 เดือนแรกปีนี้(ม.ค.-ก.ย.52)มียอดการส่งออก 109,301 ล้านดอลลาร์ ลดลง 21.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 93,544 ล้านดอลลาร์ หดตัว 32.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 15,757 ล้านดอลลาร์
สำหรับการส่งออกในเดือนก.ย.นี้ ปรับตัวดีขึ้นทุกกลุ่ม ทั้งสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร โดยสินค้าเกษตรสำคัญที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้นในในแง่ปริมาณและมูลค่า คือ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ปริมาณเพิ่มขึ้น 157.5% มูลค่าเพิ่มขึ้น 46.3% กุ้งแช่แข็งและแปรรูป ปริมาณเพิ่มขึ้น 15.5% มูลค่าเพิ่มขึ้น 12.8% น้ำตาล ปริมาณเพิ่มขึ้น 19.8% มูลค่าเพิ่มขึ้น 50.5%
โดยประเด็นสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้อัตราการส่งออกในเดือน ก.ย.นี้ติดลบน้อยลงมาก เนื่องจากในเดือนนี้ไทยส่งออกทองคำมากถึง 34.2 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 163% คิดเป็นมูลค่า 1,012.7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเหตุที่มีการส่งออกทองคำเพิ่มมากขึ้นเป็นเพราะราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูง ประกอบกับเงินดอลลาร์อ่อนค่า จึงทำให้นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไรในตลาดทองคำมากขึ้น ขณะที่ประเทศอินเดียมีความต้องการใช้ทองคำเพิ่มมากขึ้นด้วย
สำหรับการนำเข้าในเดือน ก.ย.พบว่า การนำเข้าในทุกหมวดลดลง โดยสินค้าเชื้อเพลิง ลดลง 41.4% สินค้าทุน ลดลง 21% สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ลดลง 38.7% สินค้าอุปโภคบริโภค ลดลง 15.6% และสินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง ลดลง 29.2%
"ส่วนหนึ่งที่การส่งออกในเดือนก.ย.นี้ติดลบน้อยลง มีผลจากการส่งออกทองคำที่เพิ่มมากขึ้นถึง 163% เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.51 แต่ถ้าหักการส่งออกทองคำออกไปแล้ว ก็ยังถือว่าการส่งออกในเดือนนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้" นางพรทิวา ระบุ
ด้านตลาดส่งออกในเดือนก.ย. พบว่า มูลค่าการส่งออกไปยังแต่ละตลาดมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดใหม่ เช่น จีน ออสเตรเลีย ฮ่องกง ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรปตะวันออก อินโดจีน ละตินอเมริกา ซึ่งภาพรวมการส่งออกไปยังตลาดใหม่กลับมาเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกที่ 2.7% ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดหลักโดยภาพรวม คือ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน หดตัวน้อยลงเหลือ 19.8%
รมว.พาณิชย์ คาดว่า การส่งออกทั้งปีนี้จะติดลบราว 10-13% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้ ท่ามกลางการสนับสนุนด้านนโยบายต่างๆ จากรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้ส่งออก และคาดว่าการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้(ต.ค.-ธ.ค.52) จะสามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้
ขณะที่คาดว่าการส่งออกในปี 53 จะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทยเองที่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออกในด้านต่างๆ ซึ่งจะมีผลทำให้การส่งออกของไทยในปีหน้าจะมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน