จีลี่ โฮลดิ้ง กรุ๊ป มีแนวโน้มว่า จะไม่สามารถซื้อกิจการวอลโว่จากฟอร์ด มอเตอร์ได้ หลังจากที่ใช้ความพยายามมาเป็นเวลานานถึง 10 เดือน เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องสิทธิด้านทรัพย์สินทางปัญญา
บลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของจีลี่และฟอร์ดได้ประชุมกันที่ลอนดอนสัปดาห์นี้ เพื่อหาวิธีการที่จะคลายความวิตกกังวลของค่ายรถสหรัฐเกี่ยวกับการแบ่งปันเทคโนโลยีและแผนการณ์ด้านผลิตภัณฑ์ในอนาคต โดยฟอร์ดอาจจะคงธุรกิจวอลโว่ไว้ ขณะที่ยอดขาดทุนลดลงและยอดขายปรับตัวดีขึ้น ไมเคิล โรบิเน็ท นักวิเคราะห์ของซีเอสเอ็ม เวิลด์ไวด์ กล่าวว่า "วอลโว่เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจของฟอร์ดไปแล้ว ขณะที่ฟอร์ดกังวลกับเรื่องที่ว่าระบบสถาปัตยกรรมยานยนต์ของตนเองจะสิ้นสุดลง การขายกิจการวอลโว่ก็เหมือนกับการขายห้องในบ้านห้องหนึ่งออกไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะแยกกันได้ง่ายๆ"
ฟอร์ด มอเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทรถรายใหญ่เพียงรายเดียวที่ไม่ล้มละลาย สนใจที่จะขายกิจการวอลโว่ตั้งแต่เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เพราะต้องการลดธุรกิจรถหรูในต่างประเทศออกไปเพื่อที่จะได้หันมาให้ความสำคัญกับแบรนด์รถในเครือ ส่วนจีลี่ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่สุดของจีน เสนอซื้อวอลโว่เป็นเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขที่ฟอร์ดซื้อไป 1 ใน 3 เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
การเจรจาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาเกิดขึ้นหลังจากที่มีการจับกุมตัวนายเซียง ตง ยู อดีตวศวิกรของฟอร์ด วัย 47 ปีที่ถูกตั้งข้อหาว่าขโมยเอกสารกว่า 4,000 แผ่นจากเฟอร์ด เพื่อที่จะได้เข้าไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ป ซึ่งหลังจากนั้น นายยูก็ได้เข้าไปทำงานที่ปักกิ่ง ออโต้
สหภาพยุโรปและสหรัฐได้วิจารณ์เรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของจีนและการผลิตสินค้าผิดกฎหมาย โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ และจีเอ็มที่เกาหลีใต้ได้ฟ้องร้องบริษัทผู้ผลิตรถของจีนอันเนื่องมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิบัตร