สกุลเงินเอเชียร่วงลงถ้วนหน้าในวันนี้ โดยเฉพาะเงินวอนของเกาหลีใต้ และเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียที่ตกลงหนักสุดในรอบ 2 เดือน ท่ามกลางความกังวลว่า ธนาคารกลางในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่จะเดินตามรอยบราซิลที่ประกาศจัดเก็บภาษีจากการลงทุนของต่างชาติ เพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของสกุลเงินเรียล
โดยในสัปดาห์นี้ บราซิลได้กำหนดนโยบายจัดเก็บภาษี 2% ในกรณีที่ต่างชาติเข้าซื้อพันธบัตรและซื้อหุ้นเพื่อควบคุมการแข็งค่าของเงินบราซิลไต่ระดับขึ้น 33% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
ขณะเดียวกันนายนิโคลาส์ ซาร์โกซีย์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเปิดเผยว่า การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ที่ระดับ 1.50 ยูโร/ดอลลาร์นั้น อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจยุโรป
ขณะเดียวกันการร่วงลงของตลาดหุ้นเอเชียก็บั่นทอนความต้องการสินทรัพย์ในภูมิภาคและเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองเงินดอลลาร์มากขึ้น
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 13:15 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโซล เงินวอนอ่อนค่าลง 1% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินรูเปียห์ตกลง 0.8% และเงินริงกิตของมาเลเซียลดลง 0.5%
นักวิเคราะห์จากคาลิยงกล่าวว่า "การแสดงความเห็นเรื่องสกุลเงินและความเคลื่อนไหวของบราซิลในการควบคุมการแข็งค่าของเงินเรียลด้วยการกำหนดนโยบายจัดเก็บภาษีของนักลงทุนต่างชาตินั้น ทำให้นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังในการเข้าซื้อขายสินทรัพย์ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ขณะเดียวกันก็กลัวว่าธนาคารกลางของประเทศเหล่านี้จะเจริญรอยตามบราซิลในการใช้นโยบายดังกล่าวด้วย"
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI Asia-Pacific Index ตลาดหุ้นเอเชียถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านที่ 590,000 ยูนิตในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 610,000 ยูนิต