ไมเคิล โคลแมน ประธานสมาคม Alternative Investment Management Association ประจำสิงคโปร์มองว่า การสอบสวนคดีการใช้ข้อมูลภายในเพื่อซื้อขายหุ้น หรืออินไซเดอร์ เทรดดิ้ง ของ "แกลลีออน กรุ๊ป" ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารงานของนายราช ราชารัตนาม มหาเศรษฐีชาวศรีลังกา-อเมริกันนั้น จะบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อธุรกิจเฮดจ์ฟันด์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็มีคดีโกงแชร์ลูกโซ่ครั้งประวัติศาสตร์ของโลก จนส่งผลให้เบอร์นาร์ด เมดอฟฟ์ อดีตประธานกรรมการตลาดหุ้นนาสแดค ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 150 ปี
หลังจากที่สหรัฐได้จบกุมตัวนายราช ราชารัตนาม ผู้ก่อตั้งเฮดจ์ฟันด์ "แกลลีออน กรุ๊ป" เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐก็ได้ทบทวนกฎระเบียบในอุตสาหกรรมการเงิน รวมทั้งวางแผนจัดตั้งองค์กรติดตามความเคลื่อนไหวในบริการการเงินสำหรับผู้บริโภค และดึงกองทุนเฮดจ์ฟันด์และไพรเวท อิควิตี้เข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐ
โคลแมนกล่าวต่อไปว่า นักลงทุนเองก็ระมัดระวังเรื่องการลงทุนในเฮดจ์ฟันด์อยู่แล้ว และหน่วยงานกำกับดูแลเองก็หาทางเพิ่มวิธีการดูแลและควบคุมอุตสาหกรรมการเงินตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว โดยนักลงทุนนั้นวิตกกังวลกันมากขึ้นหลังจากที่เกิดคดีเมดอฟฟ์ เช่นเดียวกับหน่วยงานกำกับดูแลซึ่งมีปฏิกริยากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทันทีเช่นกัน
นายราชได้ออกมาชี้แจงกับพนักงานของบริษัทหลังจากที่ถูกตั้งข้อหาใช้ข้อมูลภายในเพื่อซื้อขายหุ้น เพื่อทำกำไรอย่างผิดกฎหมายมูลค่ากว่า 20 ล้านดอลลาร์ โดยยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์ แม้ว่านักลงทุนจะพยายามหาทางไถ่ถอนเงินคืนจากบริษัทถึง 3.7 พันล้านดอลลาร์ก็ตาม
นอกจากนี้ นายราชยังได้ส่งจดหมายชี้แจงถึงนักลงทุนและพนักงานเพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองและบริษัท โดยระบุจะดำเนินการเพื่อสู้ข้อกล่าวหาดังกล่าว
ทางการสหรัฐเร่งตรวจสอบคดีที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายในการใช้ข้อมูลภายเพื่อซื้อขายหุ้นหรืออินไซเดอร์ เทรดดิ้ง โดยคดีบางส่วนนี้ก็มีส่วนเกี่ยวพันกับอาชญากรเศรษฐกิจระดับมหาเศรษฐีซึ่งเป็นผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์อย่างนายราช ราชารัตนาม ที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่วตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
การจัดการกับเครือข่ายอินไซเดอร์ เทรดดิ้งครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่บุคลากรในตลาดหุ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์ ทนายความ หรือนักลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งการสอบสวนครั้งนี้ได้ข้อมูลส่วนหนึ่งมาจากข้อมูลลับของคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องการจะเปิดเผยรายชื่อกลุ่มบุคคลที่ลงทุนในตลาดในช่วงเวลาที่เอื้ออำนวยเหมือนๆกัน