ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐในเดือนก.ย. มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่จะบ่งชี้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ช่วงขยายตัวในช่วงต้นปีหน้า
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า สำนักงานคอนเฟอเรนซ์บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% หลังจากที่ไต่ระดับขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. ขณะที่รายงานอีกฉบับอาจระบุถึงยอดชาวสหรัฐผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานที่เคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำในรอบ 9 เดือน
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นนั้นได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการที่ลดลง ตลาดหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งช่วยหนุนการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคและสกัดกั้นความเสี่ยงที่อาจทำให้เศรษฐกิจทรุดตัวลงในอนาคต ขณะที่บริษัทเอกชนหลายแห่งรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดพร้อมทั้งเชื่อว่าจุดต่ำสุดของวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำครั้งรุนแรงนับตั้งแต่ปี 2473 ได้สิ้นสุดลงแล้ว
นักวิเคราะห์จากเครดิตสวิสกล่าวว่า "ดูเหมือนว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้นในช่วงที่จะก้าวเข้าสู่ปีหน้า"
โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวที่ระดับ 3.2% ต่อปีนับตั้งแต่เดือนก.ค.-ส.ค. หลังจากที่เศรษฐกิจหดตัวในช่วง 4 ไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยเศรษฐกิจในรอบ 12 เดือนที่สิ้นสุด ณ เดือนมิ.ย.ตกต่ำลง 3.8%
ขณะที่รายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุถึงความเคลื่อนไหวในภาคอุตสาหกรรมต่างๆที่ขยายตัวและมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิต
ทั้งนี้ สำนักงานคอนเฟอเรนซ์บอร์ด ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยภาคเอกชนจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจในเวลา 10:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย ขณะที่กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยยอดผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในเวลา 08:30 น. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 515,000 รายในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาจากระดับ 514,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้