นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ สบน.เผยสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ส.ค.52 มีจำนวน 4,015,178 ล้านบาท หรือคิดเป็น 45.70% ของ GDP
ทั้งนี้ แยกเป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,609,362 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,102,934 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 205,863 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 97,019 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนแล้วมีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 30,786 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้น 19,820 ล้านบาท 11,920 ล้านบาท และ 1,046 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 2,000 ล้านบาท ส่วนหน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีหนี้คงค้าง
สาเหตุที่หนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้นสุทธิ 19,820 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากรัฐบาลได้ทำการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณจำนวน 9,000 ล้านบาท และดำเนินการแปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 11,000 ล้านบาท
สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 11,920 ล้านบาท เกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันในส่วนของหนี้ในประเทศ รายการที่สำคัญเกิดจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้ออกพันธบัตรจำนวน 10,000 ล้านบาท
ส่วนหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 1,046 ล้านบาท เกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน รายการที่สำคัญเกิดจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ออกพันธบัตรจำนวน 2,000 ล้านบาท และไถ่ถอนพันธบัตรจำนวน 1,000 ล้านบาท
และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 2,000 ล้านบาท เกิดจากการซื้อคืนพันธบัตรของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน
หนี้สาธารณะ 4,015,178 ล้านบาท แยกเป็น หนี้ต่างประเทศ 385,170 ล้านบาท หรือ 9.59% และหนี้ในประเทศ 3,630,008 ล้านบาท หรือ 90.41% ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,573,775 ล้านบาท หรือ 89.01% และหนี้ระยะสั้น 441,403 ล้านบาท หรือ 10.99% ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง