ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราญี่ปุ่นช่วงเช้านี้ เนื่องจากสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อดอลลาร์ในฐานะแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ดอลลาร์อ่อนตัวลงหลังจากมีข่าวว่าจีนจะเข้าเพิ่มการถือครองสกุลเงินยูโรและเงินเยนในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11.56 น.ตามเวลาท้องถิ่นในโตเกียวในวันนี้ ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับ 1.5039 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ 1.5008 ยูโร/ดอลลาร์ หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในช่วงเช้าที่ 1.5063 ยูโร/ดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังดิ่งลงแตะระดับ 91.60 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 92.06 เยน/ดอลลาร์
โยห์ นิเฮอิ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โตเกอิ โตเกียว กล่าวว่า ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับ 12 สกุลเงินหลักๆของโลก ก่อนที่จะสหรัฐและฝรั่งเศสจะเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสองประเทศจะปรับตัวสูงขึ้นซึ่งจะทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง
ส่วนค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับยูโรหลังจากนายอดัม โพเซน คณะกรรมการธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางอาจขยายโครงการซื้อสินทรัพย์ออกไปอีกระยะหนึ่ง ภายหลังจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 หดตัวลง 0.4% ทำสถิติหดตัวติดต่อกัน 6 ไตรมาสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปีพ.ศ.2498
ทั้งนี้ เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 92.35 ปอนด์/ยูโร จากระดับ 92.02 ปอนด์/ยูโร
นอกจากนี้ นิเฮอิยังกล่าวด้วยว่า การที่ตลาดหุ้นในเอเชียดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงและเทขายดอลลาร์อย่างหนัก ซึ่งก่อนหน้านี้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์อย่างคึกคักเพราะเชื่อว่าเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัย
นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 - 4 พ.ย. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็น 0.5% ในไตรมาส 2 ปีหน้า และคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.1% ไปจนถึงไตรมาสแรกของปีพ.ศ.2554