หลี่ เก้อเฉียง รองนายกรัฐมนตรีของจีน กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจีนจะยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายด้านสินเชื่อต่อไปเพื่อสนับสนุนการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
เศรษฐกิจจีนขยายตัวในอัตราเร็วขึ้นที่ระดับ 8.9% ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นจากระดับ 7.9% ในไตรมาสก่อนหน้า และรัฐบาลกล่าวว่าการขยายตัวตลอดทั้งปีน่าจะเกินกว่าระดับเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 8% ได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ดี นายหลี่กล่าวว่า "เราจะยังคงดำเนินนโยบายการคลังในเชิงควบคุมสถานการณ์ต่อไป รวมถึงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายปานกลาง เพื่อคงไว้ซึ่งความต่อเนื่องและเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค"
เศรษฐกิจจีนสามารถฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก เนื่องด้วยปัจจัยผลักดันจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน (5.86 แสนล้านดอลลาร์) ของรัฐบาล และการปล่อนสินเชื่อที่คึกคักโดยธนาคารของรัฐ
โดยการดีดตัวขึ้นนี้ หลักๆอยู่ในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลควบคุม อาทิ การก่อสร้าง เหล็กและซีเมนต์ ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคเอกชนก็กำลังปรับตัวขึ้น ส่วนการบริโภคภายในประเทศและการใช้จ่ายของผู้บริโภคนั้นคิดเป็น 1 ใน 3 ของการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสล่าสุด
"อุปสงค์ในประเทศได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน" รองนายกฯจีนกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอดปล่อยกู้โดยธนาคารต่างๆที่ทะยานขึ้นนั้นได้สร้างความวิตกเกี่ยวกับภาวะการลงทุนล้นเกินและเปล่าประโยชน์ รวมไปถึงความกังวลที่ว่ามีเงินจำนวนมากเกินไปหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดหุ้น และการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้รัฐบาลได้เข้าควบคุมการลงทุนในบางภาคอุตสาหกรรม และเตรียมที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่