นายกรัฐมนตรี คาดหวังในอีก 5 ปีข้างหน้า(ปี 55 )อาเซียนจะเป็นตลาดสำคัญของโลก จากการเติบโตของเศรษฐกิจ การรวมตัวของกลุ่มประเทศอาเซียน และ กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการเปิดเสรีการค้าระหว่างอาเซียน เพื่อจะผลักดันให้ประเทศใหญ่หันมาสนใจอาเซียนมากยิ่งขึ้น
"ใน 5 ปีที่เหลือ เราจะเคลื่อนที่เศรษฐกิจของอาเซียน เราจะทำให้สำเร็จ โดยประชากรที่มีการเติบโตรวดเร็ว การเปิดการค้าเสรีที่ลดภาษีเหลือ 0% เราจะดึงอาเซียเชื่อมโยงกันตลาด...เราจะสร้างประชาคมเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงที่จะมุ่งสร้างประชาคมใหม่ในปี 2015 (ปี 55)"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน ASEAN Business Forum 2009
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี คาดหวังว่าใน 5 ปีข้างหน้าอาเซียนจะกลายเป็นตลาดเดียวที่ประกอบด้วยประชากรประมาณ 600 ล้านคน ซึ่งนับเป็นตลาดที่มีอำนาจซื้อสูง นอกจากนี้ อาเซียนจะเป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูง , มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียม รวมทั้งมีเศรษฐกิจเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก และคาดหวังว่าชาติอาเซียนจะมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งและความมั่นคงร่วมกัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่ประเทศสมาชิกอาเซียนจะถึงเป้าหมายหรือไม่นั้น ภาคเอกชนเป็นกลไกหลักสำคัญ เพราะเป็นผู้ที่จะต้องทำตามข้อตกลง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่รัฐบาลเป็นคนตัดสินใจ แต่เป็นภาคเอกชน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลก็มีแรงกดดัน เพราะภาคเอกชนต่างก็ต้องการเวลาปรับตัว เนื่องจากยังแข่งขันไม่ได้หรือขอรับความคุ้มครอง ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นการเปิดการค้าเสรีก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ดังนั้น ภาคเอกชนต้องทำงานหนักมากกว่าภาครัฐ เพื่อความก้าวไปข้างหน้าร่วมกันของประเทศสมาชิกอาเซียน อย่างไรก็ดี นายอภิสิทธิ์ ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเปิดเสรีการค้าในภาคเกษตรว่าอาจจะสร้างผลกระทบต่อประชาชนในประเทศอาเซียน