นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กำหนด 5 ยุทธศาสตร์หลักในการพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมระดับจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน
ยุทธศาสตร์ดังกล่าว ประกอบด้วย 1.ตั้งคลังสมองเพื่อชาติ โดยทำงานเชิงรุกร่วมกับภาคเอกชน 2.ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมทำงานเป็นทีมจากเดิมที่ต่างคนต่างทำ 3.เร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 53 ให้หมดภายใน 6 เดือน เพื่อเป็นกระตุ้นการลงทุนของเอกชน และสร้างรายได้ให้ประชาชน 4.ทำงานร่วมกับเอกชนอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อให้นโยบายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และ 5.ให้เอกชนเป็นผู้ประเมินผลงานหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ด้านนายสรยุทธ์ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การทำงานร่วมกันในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาเริ่มมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น และต่อไปจะมีการร่วมมือลงลึกระดับอุตสาหกรรมแต่ละจังหวัด จัดทำยุทธศาสตร์แต่ละจังหวัด เพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งกระจายไปยังทั่วประเทศ และสามารถแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการได้มากขึ้น และนำปัญหาเข้าสู่คณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ทันที
ขณะที่นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ส.อ.ท.ได้จัดทำแผนแม่บทพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทย 6 ด้าน ประกอบด้วย การกำหนดบทบาทพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต เพื่อสร้างมูลค่าด้วยเทคโนโลยีและนวัฒกรรมใหม่, การให้ภาคอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน เช่น Eco Industrial Town และการทำ Corporate Social Responsibility หรือ CSR เป็นต้น, การทำแผนธุรกิจแบบ Cluster หรือ Supply Chain, การเร่งให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากการเปิดเขตการค้าเสรี หรือ FTA, การสนับสนุนปัจจัยต่างๆ ที่ช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม เช่น การพัฒนาระบบขนส่งสินค้า การปรับปรุงกฎระเบียบด้านภาษี และการพัฒนาบุคลากรให้นำไปสู่ความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม
ส่วนนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า การจัดทำยุทธศาสตร์ภาคอุตสาหกรรมระดับจังหวัดร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.นี้เพื่อเสนอต่อกระทรวงอุตสาหกรรม ทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีความเข้มแข็งมากขึ้น