นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เปิดเผยว่า ขณะนี้รฟท.ได้นำคำสั่งศาลกรณีห้ามมิให้บุคคลใดๆ เข้าไปในเขตทางรถไฟเพื่อขัดขวางมิให้มีการเดินขบวนรถไฟตามปกติ หรือกระทำการอันเป็นการขัดขวางการเดินขบวนรถไฟตามปกติทั้งๆที่ชุมทางสถานีรถไฟหาดใหญ่และชุมทางสถานีรถไฟต่างๆ ทั่วประเทศ ไปติดไว้ที่หัวรถจักรที่สถานีรถไฟหาดใหญ่
พร้อมกับออกหนังสือสั่งการให้พนักงานที่ประจำสถานีรถไฟหาดใหญ่ จำนวน 65 คน เข้าปฏิบัติงาน รวมทั้งได้สั่งพนักงานขับรถไฟ พนักงานช่างเครื่อง รวม 72 คน จากส่วนกลางไปเตรียมพร้อมปฏิบัติงานหากมีพนักงานลาหยุด
"คำสั่งศาลจะเป็นเกราะกำบังให้ฝ่ายบริหารสามารถดำเนินงานได้ รวมทั้งยังช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าจับกุมบุคคลที่ขัดขวางการเดินรถไฟได้ทันที ขณะที่พนักงานรฟท.ก็ต้องปฏิบัติงานตามคำสั่งของฝ่ายบริหาร หากขัดคำสั่งโดยมีเจตนาสร้างความเสียหายให้กับองค์กรจะมีโทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออก ซึ่งวันนี้พบว่าไม่มีพนักงานที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ลางาน แต่ที่ผ่านมาไม่ปฏิบัติงานเพราะอ้างเหตุผลว่าเครื่องมืออุปกรณ์ไม่พร้อม แต่วันนี้จะต้องทำงานแล้ว" นายยุทธนา กล่าว
ขณะที่หัวรถจักร 15 คัน ซึ่งจอดที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ก็ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัย และพร้อมใช้งานเรียบร้อยแล้ว จึงเชื่อว่าตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้ขบวนรถไฟจะสามารถให้บริการไปจนถึงสถานีรถไฟสุไหงโกลกได้ จากเดิมที่จะหยุดให้บริการเพียงที่สถานีรถไฟหาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งตามตารางเดินรถไฟนั้นจะมีขบวนรถไฟสายสั้นที่ให้บริการในพื้นที่ภาคใต้จำนวน 14 ขบวนต่อวัน
ส่วนกรณีที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสาขาหาดใหญ่ต้องการเจรจากับฝ่ายบริหาร เพื่อไม่ให้เอาผิดกับพนักงานที่หยุดงานนั้น ฝ่ายบริหารก็จะเจรจาด้วย แต่จะเอาผิดหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเหมาะสมของคณะกรรมการตรวจสอบ ส่วนกรณีที่พนักงานวิตกเรื่องความไม่ปลอดภัยนั้น เรื่องดังกล่าวไม่น่าห่วง เพราะแม่ทัพภาค 4 ยืนยันเรื่องความปลอดภัยแล้ว ประกอบกับหัวรถจักรทั้ง 12 คันที่ให้บริการในเส้นทางภาคใต้นั้น เป็นหัวรถจักรกันกระสุนทั้งหมด
ด้านนายสมศักดิ์ เหมฤดี คณะศิษย์เก่านักเรียนวิศวกรรมรถไฟ กล่าวว่า คณะศิษย์เก่าฯ ขอเรียกร้องให้สหภาพ รฟท. เปิดเดินรถไฟสายใต้ให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการ โดยขณะที่สหภาพฯ เปลี่ยนประเด็นเรื่องความปลอดภัยของหัวรถจักรดีเซล มาเป็นเรื่องความปลอดภัยในการเดินรถในเส้นทางหาดใหญ่-สุไหงโกลก มาต่อรอง ซึ่งเห็นว่าการนำเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นเครื่องต่อรองไม่ใช่วิสัยของพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีเกียรติ
ดังนั้น จึงขอเรียกร้องขอให้สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทยยุติการแทรกแซงเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว รวมทั้งพนักงาน รฟท.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการหยุดงานของสหภาพฯ ในครั้งนี้ และสนับสนุนให้ผู้บริหารของการ รฟท.และรัฐบาลร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน และขอบคุณสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวงที่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจที่ดี
นอกจากนั้น ยังระบุอีกว่าการกระทำของกรรมการสหภาพฯ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสหภาพฯ คือไม่ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง การขับไล่ผู้บริหารเป็นการแสวงหาและรักษาผลประโยชน์ของสมาชิกหรือไม่ มีการดำเนินการเหนี่ยวนำให้สมาชิกลางาน ถ่วงงานสร้างความเสียหายให้แก่ สาธารณชนและรฟท. และเหตุใดจึงไม่ใช้เวทีของคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงาน แต่กลับมาเคลื่อนไหวในรูปแบบของการเมือง โดยใช้กระบวนการสื่อสารเพื่อขับไล่ผู้ว่าการ