นายไถ้ หุย หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางของประเทศต่างๆในเอเชียรวมถึงเกาหลีใต้และสิงคโปร์ กำลังเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นภาวะเงินเฟ้อซึ่งเกิดขึ้นจากราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกับในสหรัฐที่กำลังเผชิญกับภาวะฟองสบู่ในตลาดจำนองซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ อินเดีย ฮ่องกง และสิงคโปร์ แจ้งให้ธนาคารพาณิชย์ในประเทศทราบเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ธนาคารจำเป็นต้องใช้มาตรฐานการปล่อยกู้ที่เข้มงวด พร้อมกับส่งสัญญาณความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ในขณะที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้หลายฝ่ายกังวลว่าการที่สหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเป็นเวลานานเกินไปอาจก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์
"ภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์เป็นปัญหาที่ธนาคารกลางหลายประเทศเร่งแก้ไขให้หมดสิ้นไปและพยายามควบคุมไม่ให้เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ธนาคารกลางต่างๆในเอเชียจึงยืนยันว่าพร้อมแล้วที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือใช้มาตรการด้านอื่นๆที่จะสกัดเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่" นายหุยกล่าว
บลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาบ้านในฮ่องกงพุ่งขึ้น 26% ในปีนี้ ส่งผลให้ธนาคารกลางฮ่องกงใช้มาตรการคุมเข้มแก่ผู้ซื้อบ้านราคาแพง ขณะที่ยอดขายที่พักอาศัยในสิงคโปร์ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 10,000 ยูนิต มากกว่ายอดขายในปีที่แล้วราว 4,300 ยูนิต ส่วนที่เกาหลีใต้ ยอดการปล่อยกู้เพื่อการซื้อขายเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 7 เดือนในเดือนส.ค.เนื่องจากราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้น
เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางออสเตรเลียเป็นประเทศแรกในกลุ่ม G20 ที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 3.25% จากเดิม 3.0% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะค่อยๆชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ