ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 14.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากความจำเป็นที่ ธปท. ต้องดูแลความผันผวนของค่าเงินบาทไม่ให้มีมากจนเป็นอุปสรรคต่อการปรับตัวของภาคเอกชน โดยเฉพาะในปีนี้ที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก
สำหรับยอดคงค้าง swap สามารถเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ตามภาวะสภาพคล่อง เช่น เมื่อต้นปี 51 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 23.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และลดลงมาต่ำเท่ากับ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อต้นปีนี้ ซึ่งในการบริหารจัดการเครื่องมือ swap นี้ ธปท. มีการดำเนินการอย่างระมัดระวังตามความจำเป็น
อย่างไรก็ตาม ธปท. ใช้ swap เป็นเครื่องมือในการบริหารสภาพคล่องเงินบาทในระบบการเงินเป็นปกติ นอกจากนี้ swap ที่ดำเนินการโดย ธปท.ยังมีประโยชน์ในการเพิ่มสภาพคล่องเงินดอลลาร์สหรัฐให้กับระบบการเงินของประเทศให้มีสภาพคล่องเงินตราต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดภาวะขาดแคลนสภาพคล่องเงินดอลลาร์สหรัฐในต่างประเทศ ซึ่งในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ผ่านมา ตลาด swap ได้ช่วยบรรเทาภาวะขาดแคลนดอลลาร์สหรัฐในตลาดในประเทศไทย และหลายธนาคารกลางในต่างประเทศก็ได้ใช้เครื่องมือนี้ในลักษณะเดียวกัน
"ธปท.ย้ำว่าการทำ swap เพราะช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูง 14.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตรงนี้เป็นปัจจัยหลักทำให้เงินในระบบมาก ทำให้ต้องดูดดอลลาร์ออกมาไม่ให้บาทผันผวน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อภาคเอกชน โดยเฉพาะที่ถูกกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่การแทรกแซงค่าเงินบาทใช้หลายเครื่องมือ โดย swap ถือเป็นเครื่องมือหนึ่ง" นายเมธี กล่าว