บีพี พีแอลซี บริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดอันดับ 2 ของยุโรปรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ปรับตัวลดลง 34% หลังราคาน้ำมันดิบดิ่งหนัก 42% จากปีที่ผ่านมา
บลูมเบิร์กรายงานแถลงการณ์ของบีพีที่ระบุว่า รายได้สุทธิของบริษัทในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ทรุดตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 5.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 8.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยบีพี เป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ในยุโรปแห่งแรกที่เปิดเผยผลประกอบการในวันนี้ ซึ่งโทนี่ เฮย์เวิร์ด ซีอีโอของบีพีตั้งเป้าที่จะประหยัดต้นทุนลงอีก 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้หลังจากที่ควบคุมค่าใช้จ่ายได้มากเกินกว่าที่ตั้งไว้ในระดับ 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ส่วนต่างรายได้จากโรงกลั่นร่วงลงกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งฉุดรั้งผลกำไรที่ได้จากผลผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก
"สาเหตุสำคัญที่ทำให้รายได้ของบริษัทปรับตัวลดลง คือราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ตกต่ำและราคาก๊าซธรรมชาติในสหรัฐที่ทรุดตัวลง" อลัน ซินแคลร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Seymour Pierce Ltd. กล่าว
ทั้งนี้ รอยัล ดัทช์ เชลล์ คู่แข่งของบีพี และเอ็กซอนโมบิล บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ในวันที่ 29 ต.ค.นี้ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท อ็อคซิเดนทัล ปิโตรเลียม คอร์ป ผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยผลกำไรที่ตกลง 59% จากผลกระทบของราคาน้ำมันที่ลดลง
ทั้งนี้ ราคาน้ำมัน NYMEX โดยเฉลี่ยในรอบ 3 เดือนที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.อยู่ที่ระดับ 68.24 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนก.ค.2551