นายฟูมิฮิโกะ อิเคะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์ของฮอนด้าประเทศไทยในช่วง 9 เดือนแรกว่ามีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 51,459 ล้านบาท ลดลง 37% จากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว เมื่อพิจารณารายไตรมาสพบว่าการส่งออกในไตรมาส 3/52 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสองไตรมาสที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าการส่งออกในไตรมาส 4/52 จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดส่งออกรวม ณ สิ้นปี 52 จะมีมูลค่ามากกว่า 70,000 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว 32%
ยอดส่งออกในไตรมาส 3/52 มีมูลค่า 20,067 ล้านบาท ลดลง 21% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกและไตรมาสที่สอง ซึ่งลดลง 40% และ 46% ตามลำดับ จะเห็นว่าการชะลอตัวของการส่งออกมีแนวโน้มลดลง เนื่องมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว
นายฟูมิฮิโกะ กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์ของค่ายฮอนด้ามีมูลค่าทั้งสิ้น 31,781 ล้านบาท ลดลง 39% จากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งเฉพาะไตรมาส 3/52 มียอดส่งออกมูลค่า 13,240 ล้านบาท ลดลง 17% จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว เห็นได้ว่ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์ มีมูลค่าสูงถึง 6,824 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 3% เนื่องมาจากประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียมีการเพิ่มจำนวนการผลิต
และคาดการณ์ว่าการส่งออกในไตรมาส 4/52 จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดส่งออกรวม ณ สิ้นปี 52 จะมีมูลค่ามากกว่า 70,000 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว 32%
ช่วง 9 เดือนแรกค่ายฮอนด้าส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปทั้งหมด 30,052 คัน โดยฮอนด้าซิตี้ยังคงเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดด้วยยอดส่งออกทั้งสิ้น 11,505 คัน ตามมาด้วยฮอนด้าซีวิค 7,484 คัน และฮอนด้าแจ๊ซ 5,189 คัน รวมทั้งสามรุ่น คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 80.5% ของจำนวนรถยนต์ที่ส่งออกทั้งหมด สิ่งนี้บ่งชี้ว่าตลาดโลกให้ความนิยมในรถยนต์นั่งขนาดเล็กเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ปัจจุบันฮอนด้าส่งออกรถยนต์จากประเทศไทยไปกว่า 40 ประเทศทั่วโลก