สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) ซึ่งเป็นการร่วงลงติดต่อกัน 4 วัน เนื่องจากความกังวลที่ว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่า ซึ่งจะทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ทองเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,035.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 7.40 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,044.30-1,032.90 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 16.540 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 55.50 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,319.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 26.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 330.55 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 2.70 ดอลลาร์
แมท เซมาน นักวิเคราะห์จากบริษัท ลาเซลล์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า "สัญญาทองคำถูกเทขายหลังจากสกุลเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆในตะกร้าเงิน ส่งผลให้สัญญาทองคำดิ่งลงไปแล้ว 2.7% ในช่วง 4 วันทำการ สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้นักลงทุนสนใจทองคำน้อยลง เพราะเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้สัญญาทองคำมีราคาแพงขึ้น"
คณะกรรมการกำกับดูแลการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดล่วงหน้าของสหรัฐ (CFTC) เปิดเผยว่า กลุ่มเฮดจ์ฟันด์และนักเก็งกำไรรายใหญ่ได้ลดการทำโพสิชั่นสัญญาทองคำลงราว 2% ณ วันที่ 20 ต.ค. หลังจากเข้าทำโพสิชั่นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการเหมืองแร่และกลุ่มผู้ผลิต เข้าทำโพสิชั่นมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว