มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ทบทวนแนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กในเอเชียเป็นมีเสถียรภาพจากเดิมที่เป็นลบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของมูดีส์ที่มีต่อปัจจัยแวดล้อมเรื่องความน่าเชื่อถือขั้นพื้นฐานว่า อุตสาหกรรมเหล็กในเอเชียจะมีความแข็งแกร่งในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า
เทอร์รี เฟนัส รองประธานอาวุโสและนักวิเคราะห์ของมูดีส์ กล่าวว่า ดีมานด์ที่มีอยู่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในจีนและอินเดีย เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งมีองค์ประกอบด้านการใช้จ่ายที่เกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในระดับสูง รวมทั้งการฟื้นตัวในอุตสาหกรรมยานยนต์และอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ดี แรงกดดันจากการส่งออกที่ได้รับผลกระทบมาจากภาวะการผลิตที่สูงเกินไปในจีน ซึ่งได้ผลิตเหล็กในปริมาณเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณเหล็กทั่วโลกนั้น ยังคงเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วง และมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อระดับการฟื้นตัวในอนาคต
"อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศสำหรับประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่ของเอเชียในปีหน้านั้นคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นทั้งหมด และเชื่อว่าประเทศเหล่านี้ เช่น จีนนั้น อุตสาหกรรมเหล็กจะยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายด้านระบบสาธารณูปโภค"
นอกจากนี้ มูดีส์ยังระบุด้วยว่า ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเหล็กรายใหญ่ในภูมิภาค ได้แก่ พอสโคของเกาหลีใต้ ทาทา สตีล ของอินเดีย และนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่นอ่อนตัวลงมาก และแต่คาดว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเหล่านี้น่าจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราการใช้งานที่สูงขึ้น ราคาเหล็กที่สูงขึ้น รวมทั้งโครงสร้างต้นทุนที่ได้มีการปรับปรุงอันเนื่องมาจากราคาวัตถุดิบที่ต่ำลง