ธปท.เผย NPL ในระบบ Q3/52 ทรงตัวที่ 5.7% ไม่น่าห่วง คาด Q4 ยังทรงตัวต่อ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 28, 2009 15:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสรสิทธิ์ สุนทรเกส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ยอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย 16 แห่ง ในไตรมาส 3/52 มียอดคงค้างจำนวน 387,700 ล้านบาท คิดเป็น 5.7% ของสินเชื่อรวม 6.7 ล้านล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 2/52 ที่อยู่ระดับ 384,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 5.8% ของสินเชื่อรวม

ขณะที่ NPL ไตรมาส 1/52 อยู่ที่ 404,300 ล้านบาท คิดเป็น 5.9%ของสินเชื่อรวม เป็นอัตราที่สูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

สำหรับยอด NPL คงค้างดังกล่าว ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคอุตสาหกรรมมากที่สุด เป็นจำนวน 149,600 ล้านบาท คิดเป็น 10.83%ของสินเชื่อในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งระบบ ธุรกิจเอสเอ็มอี 208,900 ล้านบาท คิดเป็น 8% ของสินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งระบบ และการพาณิชย์ 56,121 ล้านบาท

ทั้งนี้ NPLไตรมาส 3/52 ที่ทรงตัวจากไตรมาสก่อน ไม่ได้มีความผิดปกติ แต่เป็นผลจากการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ไม่ได้ขยายตัวมาก ประกอบกับ NPL ไม่ได้เร่งตัวขึ้น ส่วนหนึ่งเนื่องจากธนาคารพาณิชย์ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ ประนอมหนี้ และตัดหนี้สูญด้วย สะท้อนว่า ธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคง และ ธปท.ในฐานะกำกับดูแลพอใจกับยอด NPL ดังกล่าว

"ยอด NPL ทำให้แบงก์ชาติไม่ได้หนักใจ ถ้ามองในแง่ผู้กำกับก็ถือว่าโอเค แต่ถ้ามองภาพรวมการที่แบงก์ปล่อยสินเชื่อได้น้อยเกินไป ทำให้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี การหมุนเวียนเงินในระบบไม่ค่อยดี เพราะแบงก์ระมัดระวังความผันผวนทีเกิดขึ้น" นายสรสิทธิ์ กล่าว

ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. กล่าวอีกว่า แนวโน้ม NPLไตรมาส 4/52 น่าจะทรงตัวในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 3 เนื่องจากช่วงหลังธนาคารพาณิชย์เร่งแก้ปัญหาสินเชื่อ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ประนอมหนี้ ซึ่งจะทำให้ NPL ไม่น่าจะสูงขึ้น

ส่วนผลกำไรของธนาคารพาณิชย์ ในไตรมาส 3/52 อยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไม่มีภาระการกันสำรองหนี้เสียมาก และได้ดำเนินการตามเกณฑ์ IAS 39 ที่กันสำรองหนี้เสียไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 51



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ