นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนก.ย.ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในคืนนี้นั้น จะเพิ่มขึ้น 2.6% แตะระดับ 440,000 ยูนิต/ปี จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 429,000 ยูนิต/ปี ซึ่งจะเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 6 เดือน เนื่องจากกลุ่มบริษัทสร้างบ้านได้ประโยชน์จากโครงการลดหย่อนภาษีมูลค่า 8,000 ดอลลาร์แก่ผู้ที่ซื้อบ้านครั้งแรกซึ่งจะหมดอายุลงในเดือนหน้า
เบรด ฮันเตอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Metrostudy ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์กล่าวกับเอพีว่า กลุ่มผู้ซื้อบ้านครั้งแรกได้ประโยชน์จากโครงการลดหย่อนภาษี ซึ่งโครงการดังกล่าวช่วยหนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวขึ้น โดยล่าสุดตัวเลขสร้างบ้านเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.5% แตะที่ 590,000 ยูนิตในเดือนก.ย.
รายงานระบุว่าสภาคองเกรสสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องการขยายเวลาโครงการลดหย่อนภาษีออกไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. และจะค่อยๆถอนโครงการดังกล่าวหลังจากนั้น โดยล่าสุดนายคริส ดอดด์ ประธานคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตของสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงกันเป็นการภายในว่า จะต่ออายุให้กับโครงการลดหย่อนภาษี 8,000 ดอลลาร์สำหรับผู้ซื้อบ้านครั้งแรก
โครงการลดหย่อนภาษีนี้ช่วยฟื้นฟูตลาดที่อยู่อาศัยให้หลุดพ้นจากภาวะ ตกต่ำครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930 เป็นต้นมา โดยโครงการนี้จะหมดอายุลงในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ขณะที่ตัวแทนอุตสาหกรรมก่อสร้างบ้านและอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐกำลังล้อบบี้ สภาคองเกรสให้ต่ออายุโครงการลดหย่อนภาษีออกไป