น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า หลังจากที่นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ สั่งการให้ทูตพาณิชย์หาความต้องการซื้อข้าวไทยในแต่ละประเทศสำหรับผลผลิตฤดูกาลใหม่ปี 52/53 ซึ่งล่าสุดทูตพาณิชย์ไทยประจำประเทศจีนแจ้งว่า จีนมีความต้องการซื้อข้าวฤดูกาลใหม่(ปี 52/53) จากไทยประมาณ 400,000 ตัน และเชื่อว่าความต้องการซื้อจากประเทศอื่นจะมีเข้ามาอีกมาก ซึ่งจะช่วยผลักดันการส่งออกข้าวในส่วนที่รัฐบาลจะเริ่มตั้งโต๊ะรับซื้อจากเกษตรกรตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ได้อย่างแน่นอน
"ข้าวเปลือกที่รัฐบาลจะรับซื้อจากชาวนาตามราคาอ้างอิงที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศนั้น จะไม่มีเหลือเก็บในประเทศแน่นอน เพราะกระทรวงพาณิชย์จะผลักดันการส่งออกให้หมด โดยขณะนี้ทูตพาณิชย์ไทยในประเทศต่างๆ เริ่มออกหาคำสั่งซื้อแล้ว ขณะเดียวกัน กรมการค้าต่างประเทศก็จะนำภาคเอกชนไปหาตลาดในต่างประเทศด้วย เมื่อดึงผลผลิตออกนอกประเทศจะช่วยทำให้ราคาภายในมีเสถียรภาพได้" น.ส.ชุติมากล่าว
ด้านนายยงยศ ปาละนิติเสนา รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า(อคส.)กล่าวว่า อคส.จะรับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิจากเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำมาผลิตข้าวสารบรรจุถุงขายในประเทศและส่งออก ซึ่งขณะนี้มีตลาดแล้ว เช่น ดูไบ โดยการซื้อดังกล่าวเป็นการทำธุรกิจของ อคส.เอง ไม่ใช่การรับซื้อตามนโยบายรัฐบาล ส่วนการรับซื้อตามนโยบายรัฐบาลนั้น อคส.จะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.เป็นต้นไป