นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.ภัทร(PHATRA)กล่าวในงานสัมมนา"Thailand Tomorrow"หัวข้อ“ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2553"ว่า มองว่าเร็วเกินไปหากจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงต้นปี เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดเงินไหลเข้าและเพิ่มแรงกดดันให้เงินบาทแข็งค่ารุนแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ต้องเผชิญกับปัญหามากขึ้นด้วย
เพราะฉะนั้น แนวทางที่เหมาะสม คือ ควรปล่อยให้เงินบาทแข็งค่า และให้เงินเฟ้อมาเป็นตัวคุมเงินบาทแทน ขณะนี้การขึ้นดอกเบี้ยน่าจะไปเป็นปลายปี 53 น่าจะดีกว่าการขึ้นในช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นกับนโยบายของรัฐบาลจีนด้วยว่าจะยอมปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าหรือไม่ เพราะจะมีผลทำให้หลายประเทศในเอเชียจะปล่อยให้เงินแข็งค่าตามไปด้วย โดยเชื่อว่าจีนจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจังหากมีเงินไหลเข้าไปมากถึง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจุบันมีเงินไหลเข้าประมาณไตรมาสละ 2.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายศุภวุฒิ กล่าวต่อว่า แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า ดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์จะไม่ปรับขึ้น เพราะขณะนี้รัฐบาลมีการเริ่มกู้เงินในประเทศมากขึ้นด้วยการออกพันธบัตร เป็นการดึงเงินฝากของประชาชน ซึ่งจะมีผลทำให้ธนาคารพาริชย์อาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนดอกเบี้ยนโยบาย