ธนาคารกลางสิงคโปร์คาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปีหน้าจะชะลอตัวลงกว่าเดิมและมีความมั่นคงมากขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างไม่สามารถสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ และดีมานด์นอกประเทศก็ยังคงถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทายอยู่
แบงค์ชาติสิงคโปร์ระบุว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์อยู่ในช่วงของการฟื้นตัว หลังจากที่หลุดพ้นจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงสุดนับตั้งแต่ที่ได้รับเอกราชเมื่อปี 2508 และยังไม่สามารถฟื้นตัวจนกลับมาอยู่ที่ระดับก่อนที่จะเกิดวิกฤตได้ ขณะที่การขยายตัวนั้นจะเปลี่ยนไปอยู่ในโหมดของการเติบโตอย่างยั่งยืนมากขึ้นในปีหน้า
บลูมเบิร์กรายงานว่า เศรษฐกิจของสิงคโปร์นั้นต้องพึ่งพาการฟื้นตัวของการส่งออก เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากภาวะถดถอย ก่อนหน้านี้ แบงค์ชาติสิงคโปร์ระบุว่า จะยังคงใช้นโยบายค่าเงินที่อยู่ในระดับต่ำต่อไป แต่ล่าสุดชี้ว่า ธนาคารได้เข้าไปแทรกแซงตลาด เพื่อลดแรงกดดันจากเงินดอลลาร์สิงคโปร์ที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆของเอเชียสูงขึ้นขนานไปกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค
ธนาคารกลางสิงคโปร์ได้ใช้แนวทางการดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไปในกระบวนการตัดสินใจด้านนโยบายช่วงเวลาที่มีความผันผวนและไม่แน่นอน เป้าหมายของธนาคารอยู่ที่การใช้นโยบายการเงินในระยะกลาง รวมทั้งการยืนยันในเรื่องบทบาทของอัตราแลกเปลี่ยนที่ถือเป็นปัจจัยที่มีส่วนสร้างเสถียรภาพ
ทั้งนี้ เงินดอลลาร์สิงคโปร์ถือเป็นสกุลเงินที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดเป็นอันดับ 3 ของเอเชียในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 5.8% หลังจากที่แบงค์ชาติได้ปรับช่วงการซื้อขายเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นการลดมูลค่าของอัตราแลกเปลี่ยนลงอย่างมีประสิทธิภาพ
แบงค์ชาติสิงคโปร์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับประมาณ 0% ในปีนี้ ก่อนที่จะแข็งค่าขึ้น 1-2% ในปีหน้า