รอยัล ดัทช์ เชลล์ (Royal Dutch Shell Plc) บริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป รายงานผลกำไรไตรมาส 3 ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำกดดันให้ดีมานด์เชื้อเพลิงอ่อนตัว รวมถึงราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติลดลง
ผลกำไรสุทธิไตรมาส 3 ของบริษัทพลังงานสัญชาติอังกฤษ-ดัทช์ ร่วงลง 62% แตะ 3.25 พันล้านดอลลาร์ จากระดับ 8.45 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายร่วงลง 43% แตะ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ปีเตอร์ โวเซอร์ ซีอีโอของเชลล์ กล่าวว่า บริษัทไม่ได้คาดหวังว่าการฟื้นตัวจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเผยว่าบริษัทจะลดจำนวนพนักงานราว 5,000 รายปีนี้ โดยปัจจุบันเชลล์กำลังขายสินทรัพย์ ควบรวมธุรกิจ และลดพนักงาน เพื่อยกระดับการแข่งขันของเชลล์ให้สามารถรับมือกับการคาดการณ์ที่ว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะดิ่งลงหนักสุดนับแต่ปีพ.ศ.2523 นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าที่จะลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ได้อีกประมาณ 10% ในปีหน้า
ทั้งนี้ เอ็กซอน โมบิล คอร์ป บริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของสหรัฐ มีกำหนดที่จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ต่อจากเชลล์ในวันนี้ ตามด้วยเชฟรอน คอร์ป ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่บีพี บริษัทน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรปได้เปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสที่เหนือความคาดหมายไปก่อนหน้านี้แล้วเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ โดยบีพีประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนได้มากกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ที่ 1 พันล้านดอลลาร์