World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2552

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 29, 2009 16:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ของสหรัฐดิ่งลง 3.6% แตะที่ 402,000 หลัง/ปี ซึ่งร่วงลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น

-- ธนาคารกลางของนอร์เวย์ (Norges Bank) ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.5% วานนี้ นับเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของแบงก์ชาตินอร์เวย์นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2551 และถือเป็นรายแรกในทวีปยุโรปนับตั้งแต่ที่วิกฤตการเงินโลกได้ปะทุขึ้นเมื่อกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา

-- ฟิลิปปินส์ได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้ระวังภัยจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นมีรีแน ซึ่งเป็นพายุลูกใหม่กำลังเคลื่อนตัวมายังเกาะลูซอน หลังจากที่พายุไซโคลนได้พัดเข้าถล่มฟิลิปปินส์เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว และมีผู้เสียชีวิตกว่า 900 คน

-- สตีฟ คอลลินส์ ประธานสภานโยบายอุตสหกรรมยานยนต์แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า ทางการจีนได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่สหรัฐทราบว่า จีนจะใช้มาตรการต่างๆที่อาจนำไปสู่การปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์รถยนต์ที่ผลิตโดยบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ไครสเลอร์ และฟอร์ด

-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยกระดับคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชีย โดยเศรษฐกิจจีนไปจนถึงอินเดียจะขยายตัวรวดเร็วกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ไปจนถึงปีหน้า แซงหน้าการขยายตัวของเศรษฐกิจในชาติตะวันตก เนื่องจากการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกของรัฐบาล และการฟื้นตัวของการค้าทั่วโลก

-- ผลผลิตอุตสาหกรรมญี่ปุ่นในเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ซึ่งทำสถิติเดินหน้าต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบ 12 ปี เพราะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลทั่วโกซึ่งช่วยหนุนบรรยากาศทางการค้าให้คึกคักมากขึ้น

-- อินเดีย ผู้ปลูกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก อาจกลายเป็นผู้นำเข้าข้าวสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปีในปีหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดความหวั่นวิตกเกี่ยวกับวิกฤตอาหารจนส่งผลให้ราคาข้าวพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหมือนเมื่อปีที่แล้ว

-- รอยัล ดัทช์ เชลล์ (Royal Dutch Shell Plc) บริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป รายงานผลกำไรไตรมาส 3 ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำกดดันให้ดีมานด์เชื้อเพลิงอ่อนตัว รวมถึงราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติลดลง

-- นินเทนโดได้ปรับลดการคาดการณ์กำไรลง 23% แตะ 2.30 แสนล้านเยน หรือ 2.5 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่ยอดขายเครื่องเล่นเกม Wii ร่วงลง และเงินเยนแข็งค่าขึ้นจนทำให้รายได้จากการส่งออกลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ