ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เงินปอนด์ และสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) เนื่องจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวเกินคาดทำให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์สหรัฐและหันเข้าซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเทรดค่าเงินดอลลาร์น้อยลงด้วย
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.82% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4829 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4709 ยูโร/ดอลลาร์ และร่วงลง 0.76% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0185 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0263 ฟรังค์/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.95% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6534 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.6378 ปอนด์/ดอลลาร์ แต่พุ่งขึ้น 0.93% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 91.460 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 90.620 เยน/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.98% แตะที่ 0.9154 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.8976 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดขึ้น 1.62% แตะที่ 0.7318 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7201 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน กล่าวกับเอพีว่า นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์และเข้าซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าหลังจากสหรัฐเผยจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 3.5%ต่อปี ซึ่งขยายตัวเป็นไตรมาสแรกหลังจากหดตัวมากว่า 1 ปี และขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวเพียง 3.2%ต่อปี
"เมื่อสองวันก่อนดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนทุ่มซื้อเพราะมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจสหรัฐยังเปราะบาง แต่ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ที่ขยายตัวเร็วกว่าคาดทำให้นักลงทุนเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงในสหรัฐสิ้นสุดลงแล้ว จึงหันเข้าเทรดในสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า" วูลฟอล์คกล่าว
วูลฟอล์คคาดว่าสกุลเงินดอลลาร์จะร่วงลงอีกตราบใดที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ โดยล่าสุดนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้หลายฝ่ายกังวลว่าการที่สหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเป็นเวลานานเกินไปอาจก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์
ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแม้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ไปจนถึงไตรมาส 2 ของปีหน้าและจะยังไม่เร่งถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงได้รับปัจจัยบวกจากธนาคารกลางออสเตรเลียที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 3.25% จากเดิม 3.0% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจในคืนวันศุกร์ของสหรัฐ โดยสหรัฐจะรายงานรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย.และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.