กระทรวงแรงงานสิงคโปร์รายงานในวันนี้ว่า ภาคเอกชนลดการจ้างงานลง 2,200 ตำแหน่งในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการลดการจ้างงานน้อยลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ลดการจ้างงานลง 5,980 ตำแหน่ง เนื่องจากดีมานด์สินค้าและการบริการฟื้นตัวขึ้นหลังจากเศรษฐกิจสิงคโปร์ดีดตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรงสุดในรอบกว่า 40 ปี
ตัวเลขการจ้างงานในไตรมาส 3 มีอยู่ทั้งสิ้น 15,400 ตำแหน่ง โดยอุตสาหกรรมการผลิตลดการจ้างงาน 6,600 ตำแหน่ง อุตสาหกรรมบริการเพิ่มการจ้างงาน 13,400 ตำแหน่ง และอุตสาหกรรมก่อสร้างลดการจ้างงาน 8,100 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานในไตรมาส 3 ของสิงคโปร์เพิ่มขึ้นแตะ 3.4% จากไตรมาส 2 ที่ 3.3% ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัว
รัฐบาลสิงคโปร์ได้ขยายโครงการช่วยเหลือเรื่องค่าแรงแก่พนักงานที่จะเกษียณอายุในปีนี้ หรือโครงการ Jobs Credit Program ออกไปอีก 6 เดือน เพื่อไม่ให้อัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อกระบวนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยรัฐบาลใช้งบประมาณสูงถึง 675 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 483 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อขยายโครงการดังกล่าวหลังจากที่ได้ใช้งบไปแล้ว 4.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในการช่วยเหลือค่าแรงแก่พนักงานชาวสิงคโปร์เป็นระยะเวลา 1 ปี
ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของสิงคโปร์ขยายตัว 14.9%ต่อปี หลังจากขยายตัวอย่างแข็งแกร่งถึง 22%ต่อปี ในไตรมาส 2 ขณะที่รัฐบาลปรับเพิมคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีตลอดปี 2550 ว่าจะหดตัวลง 2-2.5% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 4-6%
หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สรายงานโดยอ้างผลการสำรวจของบริษัท ฮัดสัน ว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นทำให้บริษัทเอกชนในสิงคโปร์เริ่มทบทวนแผนการจ้างงาน โดย 34% ของบริษัทที่ตอบรับการสำรวจวางแผนว่าจะเพิ่มการจ้างงานในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่มีอยู่เพียง 26% ส่วนบริษัทที่วางแผนจะปลดพนักงานออกในไตรมาส 4 มีอยู่เพียง 5% น้อยกว่าไตรมาส 3 ที่มีอยู่สูงถึง 14%