นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้ประกาศอัตราอ้างอิงประกันราคาข้าวเปลือกประจำวันที่ 1-15 พ.ย.52 เพื่อใช้ในการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรข้าวนาปี ปีการผลิต 2552/53 พร้อมเตรียมเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรใน 3 จังหวัดนำร่องตามมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวของรัฐบาล
โดยอัตราอ้างอิงในรอบนี้ ประกอบด้วย ข้าวเปลือกหอมมะลิ 14,840 บาท/ตัน อัตราส่วนต่าง 460 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกหอมจังหวัด 13,729 บาท/ตัน อัตราส่วนต่าง 571 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกเจ้า 8,389 บาท/ตัน อัตราส่วนต่าง 1,611 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกปทุมธานี 9,175 บาท/ตัน อัตราส่วนต่าง 825 บาท/ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 7,680 บาท/ตัน อัตราส่วนต่าง 1,820 บาท/ตัน
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เท่าที่มีการประเมินสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกขณะนี้ เห็นว่าราคาโดยรวมยังมีเสถียรภาพแม้ว่าราคาตลาดจะปรับตัวลดลงมาบ้างในราคาข้าวบางชนิด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะต้องหาแนวทางเพื่อพยุงราคาข้าวในตลาดให้มีเสถียรภาพและเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกร
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.เป็นต้นไป องค์การคลังสินค้า(อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) จะเข้ารับไปซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรไม่จำกัดปริมาณ โดยนำร่องในพื้นที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย กำแพงเพชร พิษณุโลก และนนทบุรี เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เริ่มมีปริมาณผลผลิตข้าวออกมามาก และกำลังพิจารณาเปิดจุดรับซื้อเพิ่มเติมในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ด้วย
"รัฐบาลจะเข้าไปรับซื้อข้าวเปลือกตามจุดต่างๆ นำร่อง 3 จังหวัดในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ เพื่อให้เกษตรกรสามารถขายข้าวได้ในราคาตลาด" นายยรรยง กล่าว