รมว.พลังงาน ปลื้มเก็บรายได้จากการผลิตปิโตรเลียมเข้ารัฐได้สูงเกินเป้า

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า ผลการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐจากกิจการสำรวจและผลิตของผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมภายในประเทศและจากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA) ในปีงบประมาณ 52(ต.ค.51-ก.ย.52) เป็นเงินทั้งสิ้น 140,959 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณก่อนที่จัดเก็บได้รวม 121,084 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19,875 ล้านบาท

"จากคาดการณ์ในรอบ 9 เดือนของปีงบประมาณ 2552 ของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติซึ่งรายงานว่าในปีงบประมาณ 2552 รัฐจะจัดเก็บรายได้จากกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งในประเทศและจากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ประมาณ 139,740 ล้านบาทนั้น ปรากฏว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2552 กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้รายงานว่า สามารถจัดเก็บรายได้จริงรวมเป็นเงิน 140,959 ล้านบาท" นพ.วรรณรัตน์ กล่าว

สำหรับรายได้ดังกล่าว ประกอบด้วย ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมจากผู้รับสัมปทานในประเทศเป็นเงิน 40,353 ล้านบาท รายได้จากการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย(JDA) เป็นเงิน 6,953 ล้านบาท ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมเป็นเงิน 86,664 ล้านบาท และรายได้จากผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ(Special Remuneration Benefit-SRB) ตามสัมปทานปิโตรเลียม ซึ่งจัดเก็บจากผลการประกอบการปิโตรเลียมของปี 2551(แต่นำมาชำระในปี 2552) ของผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมเป็นเงิน 6,988 ล้านบาท

รมว.พลังงาน กล่าวว่า การดำเนินงานด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งในประเทศ และพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย(JDA) ในรอบปีงบประมาณ 2552 ก่อให้เกิดรายได้ทางตรงกับรัฐและท้องถิ่นสำหรับนำไปใช้สำหรับการลงทุนพัฒนาประเทศชาติและสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้า

ทั้งนี้กระทรวงพลังงานมีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างไม่หยุดยั้งที่จะสร้างเสริมความมั่นคงด้านพลังงานด้วยการพัฒนาและผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากแหล่งปิโตรเลียมในประเทศให้เพิ่มมากขึ้นควบคู่ไปกับการสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศทั้งในรูปแบบของรายได้แผ่นดิน ดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม สร้างงานวิชาชีพระดับสูง รวมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับคนไทยด้วย เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง