นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์ว่า รัฐบาลได้เดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรแล้ว โดยเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำพิธีโอนเงินชดเชยรายได้ให้เกษตรกร จ.เพชรบุรี และจ.เพชรบูรณ์ ที่ปลูกข้าวโพด 1.50 บาท/กิโลกรัม เป็นการยืนยันว่านโยบายของรัฐบาลมีความชัดเจนและได้เริ่มกระบวนการแล้ว
สำหรับข้าว ซึ่งมีปริมาณผลผลิตมากที่สุดและมีจำนวนครัวเรือนเพาะปลูกมากที่สุด ก.เกษตรและสหกรณ์ ก.พาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้มีการติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด เพราะยังมีปัญหาการร้องเรียนเรื่องปริมาณผลผลิตต่อไร่ เพื่อนำมาคำนวณการชดเชยรายได้ หรือราคาอ้างอิงที่ใช้ชดเชย เป็นราคาที่เกษตรกรไม่สามารถขายผลผลิตได้จริง ซึ่งเกิดจากปัญหาความชื้น ซึ่งจะมีการตัดทอนราคาส่วนนี้ออก
ทั้งนี้ขอให้ประชาชน เกษตรกรมั่นใจว่า ราคาอ้างอิงที่รัฐบาลประกาศ เป็นราคาซื้อขายได้จริง แต่หากพบว่ามีการกำหนดราคาซื้อขายที่ต่ำกว่าจากกระบวนการกดดันราคาข้าว รัฐบาลจึงมีมาตรการเดินหน้าโครงการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ทั้งการให้สินเชื่อโรงสีที่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง และมาตรการที่รัฐบาลจะเข้ารับซื้อข้าวเองในราคาอ้างอิงในบางจังหวัด เพื่อนำไประบายข้าวได้โดยไม่ขาดทุน ดังนั้นภาพรวมราคาข้าว มั่นใจว่าตลาดข้าวในอนาคตจะเป็นราคาดี และรัฐไม่เร่งรีบระบายข้าว จะทำให้ดึงราคาและเดินหน้าโครงการประกันรายได้โดยไม่เป็นภาระต่อรัฐบาล
ส่วนเกษตรกรที่ปลูกข้าวน้อยกว่า 190 วัน ซึ่งรัฐบาลไม่ส่งเสริมการปลูกข้าวดังกล่าว และไม่สามารถเข้าโครงการประกันรายได้ เพราะเป็นผลผลิตไม่มีประสิทธิภาพ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดูแล เพื่อวางแนวทางช่วยเหลือเช่นกัน
" หลังประกาศมาตรการแล้ว ทำให้ราคาข้าวปรับขึ้น พรุ่งนี้จะประกาศราคาอ้างอิงใหม่ที่ปรับขึ้นสะท้อนความเป็นจริงมากขึ้น ส่วนเกษตรกรที่เป็นห่วงเรื่องทำสัญญา ก็ได้เร่งให้มีการทำประชาคม ทำสัญญา และจะได้มีการติดตามข้อมูลทุกสัปดาห์ ยืนยันว่ารัฐบาลได้เดินหน้าโครงการแล้ว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว