จีนเผยดัชนี PMI เดือนต.ค.พุ่งสูงสุดในรอบ 18 เดือน คาดรัฐบาลชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Monday November 2, 2009 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาพันธ์ธุรกิจโลจิสติกส์และการจัดซื้อของจีนรายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความแข็งแกร่งในภาคอุตสาหกรรม พุ่งขึ้นแตะระดับ 55.2 จุดในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 54.3 จุด สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนจีนได้ให้คำมั่นว่าจะยังคงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างงาน รักษาเสถียรภาพทางสังคม และเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศที่ชื่อได้ว่ามีอัตราการขยายตัวเร็วที่สุดในโลก โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจจีนอาจขยายตัว 9.5% ในไตรมาส 4 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 7.9% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ หลังจากที่ผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากยอดขายรถโดยสารที่ขยายตัวขึ้นเกือบ 2 เท่าเพราะได้แรงหนุนจากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาล

"การที่นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคการธนาคารปล่อยเงินกู้สูงถึง 1.27 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ทำให้เศรษฐกิจจีนดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากยอดส่งออกของจีนทรุดฮวบลงเพราะถูกกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลก แต่ดัชนี PMI เดือนต.ค.ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนอาจทำให้รัฐบาลจีนพิจารณาเรื่องการชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงต้นปี 2553" ไบรอัน แจ็คสัน นักวิเคราะห์จากรอยัล แบงค์ ออฟ แคนาดา กล่าว

แจ็คสันคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในจีนอาจพุ่งขึ้นเป็น 6.39% จากระดับของปีนี้ที่ 5.31% และคาดว่าค่าเงินหยวนจะพุ่งขึ้นแตะ 6.5 หยวนต่อดอลลาร์

นายจอร์จ โซรอส จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังระดับโลก คาดการณ์ว่า จีนจะผงาดขึ้นเป็นประเทศที่สามารถต้านทานวิกฤตการณ์การเงินได้ดีที่สุดของโลก ขณะที่สหรัฐกลายเป็นประเทศที่รับมือกับวิกฤตการณ์การเงินได้แย่ที่สุด ทางด้านโจเซฟ สติกลิทซ์ ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงจีน ต้องเร่งใช้มาตรการป้องกันภาวะฟองสบู่ที่เป็นผลมาจากสภาพคล่องที่มีอยู่มากเกินไป หลังจากรัฐบาลทั่วโลกพร้อมใจกันใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

บลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลจีนตั้งเป้าเพิ่มการจ้างงานอีก 9 ล้านตำแหน่ง หลังจากมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ปีนี้ ขยายตัว 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 12.4% จากปีที่แล้ว และยอดค้าปลีกประจำไตรมาส 3 ของจีนพุ่งขึ้น 15.1%เมื่อเทียบเป็นรายปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ