นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ จะร่วงลงอีก 175,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นสถิติที่ร่วงลงรุนแรงสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนต.ค.จะพุ่งขึ้นแตะ 9.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี สะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งแม้รัฐบาลได้ใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลายด้านในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม
โจชัว ชาพิโร หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท Maria Fiorini Ramirez Inc ในนิวยอร์ก กล่าวว่า อัตราว่างงานที่สูงขึ้นและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นผลน้อยลงของรัฐบาลทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานประจำเดือนต.ค.ในคืนวันศุกร์ที่ 6 พ.ย.ตามเวลาประเทศไทย นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐจะขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 3 ปี
ส่วนตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.ของสหรัฐลดลง 263,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลง 21 เดือนติดต่อกัน และร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 175,000 ราย ขณะที่อัตราการว่างงานพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 9.8 % เทียบกับระดับ 9.7% ในเดือนส.ค.
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจความคิดเห็นซึ่งจัดทำโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐบ่งชี้ว่า บริษัทในสหรัฐกำลังวางแผนเพิ่มการจ้างงานและการลงทุนในอีก 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 1 ปี และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวไปจนถึงปีหน้า
ผลสำรวจระบุว่า บริษัทที่คาดว่าจะจ้างงานพนักงานเพิ่มขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้ามีมากกว่าบริษัทที่จะปลดพนักงานอยู่ 4%ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว นอกจากนี้ มีบริษัทที่วางแผนจะลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่าบริษัทในสหรัฐมีมุมมองที่เป็นบวกต่ออนาคตมากขึ้น หลังจากยอดขาย ราคาสินค้า และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่มีการสำรวจในเดือนก.ค. ซึ่งผลการสำรวจอาจบ่งชี้ว่าวิกฤตการณ์ด้านการจ้างงานในสหรัฐอาจสิ้นสุดในเร็วๆนี้