นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการฝ่ายเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา"ทิศทางเศรษฐกิจ 2553:Economics 2010"ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 53 มีพื้นฐานที่ดีจึงน่าจะพลิกฟื้นกลับมาขยายตัวได้จากแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเอเชีย แต่ยังมีความเสี่ยงที่แรงส่ง(momentum)อาจจะลดลง หรือ ลด speed ของการเติบโต เราจึงต้องใช้ความระมัดระวังไม่ประมาท ซึ่งธปท.ก็จะติดตามและเฝ้าระวังโอกาสของการเกิดภาวะฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่เห็นก็ตาม
"ตอนนี้แบงก์ชาติจะจับสัญญาณฟองสบู่ในอสังหาฯ กับตลาดหุ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะเอเชียทำให้เงินไหลเข้าภูมิภาค รวมทั้งไทย อย่างต่อเนื่อง ตรงนี้ต้องระมัดระวังว่าจะสร้างความผันผวนต่อภาวะตลาดเงินในตลาดเงินในประเทศ และสร้างความเสี่ยงในราคาสินทรัพย์ปรับขึ้นเกินปัจจัยพื้นฐาน ธปท.จะติดตามดูและตรวจสอบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด" นายบัณฑิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวขึ้นมาอย่างชัดเจน ข้อมูลหลาย ๆ เดือนเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่เร่งตัวขึ้นมาก สภาพการเก็งกำไรยังไม่เห็นชัดเจนทั้งในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น ดังนั้น นโยบายการเงินยังต้องผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นชัดเจนมากขึ้นในปี 53
"ตอนนี้เสถียรภาพเศรษฐกิจเป็นอะไรที่น่าพอใจ เงินเฟ้อตอนนี้ไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่จะเร่งตัวขึ้นในปี 53 จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ"รองผู้ว่าธปท. กล่าว
ประเด็นสำคัญคือ สภาพคล่องทางเศรษฐกิจ สถาบันการเงินมีความเข้มแข็งมากพอ รัฐบาลมีการลงทุน แต่ตอนนี้ความเชื่อมั่นธุรกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ หลายคนยังมีความกังวลอยู่ ดังนั้นคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินความเสี่ยงที่จะกระทบเศรษฐกิจในปีหน้าก็จะเป็นภาวะเศรษฐกิจโลก การใช้จ่ายของรัฐบาล ผลกระทบการลงทุนภาคเอกชน อย่างกรณีปัญหามาบตาพุด
นายบัณฑิต กล่าวต่อว่า ในส่วนของค่าเงินบาท ธปท.ยังให้ความสำคัญไม่ให้เป็นข้อจำกัดและผันผวนต่อภาคธุรกิจ ซึ่ง ธปท.ยังจำเป็นต้องเข้าไปดูแลอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจไทยปรับตัวได้ดี