นายกฯ มั่นใจจีดีพีปี 53 โต 3% แนวโน้มว่างงานลด-ท่องเที่ยวฟื้นเป็นบวก

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 2, 2009 16:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรัฐมนตรี ระบุภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยมั่นใจผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะเป็นบวก ส่วนปีหน้าจะขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 3%

"ตัวเลขทางเศรษฐกิจโดยรวมตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมามีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ถ้าเปรียบเทียบเดือนต่อเดือน และถ้าเปรียบเทียบปีต่อปีก็ยังเป็นไปในแนวทางที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าเอาไว้คือตัวเลขจะกลับมาเป็นบวกในไตรมาสสุดท้ายอย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันจากการคาดการณ์เรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจปีหน้านั้นจะเริ่มมีการขยับขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 3%" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมเกี่ยวกับแนวโน้มทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศไทยของ บล.เคที ซิมิโก้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่ตัวเลขการว่างงานในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาไม่เพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มลดลง ซึ่งเป็นสิ่งบ่งบอกว่าเศรษฐกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดและเริ่มฟื้นตัวขึ้น การส่งออกถ้าเปรียบเทียบเดือนต่อเดือนจะเริ่มดีขึ้นโดยลำดับ ส่วนด้านท่องเที่ยวหลังจากที่ติดลบเป็นเลขสองหลักมาเกือบทุกเดือน แต่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาติดลบเพียง 5% และเดือนกันยายนตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้น 16%

"ขณะนี้เศรษฐกิจข้างนอกค่อนข้างจะฟื้นตัวแล้ว เพราะฉะนั้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวมน่าจะไปได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันกฎหมายเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวได้ประกาศใช้แล้ว เพราะฉะนั้นเงินที่จะลงไปในส่วนของงบประมาณตามปกติไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งปีที่แล้วการใช้จ่ายได้มีการเร่งขึ้นมารวมทั้งงบประมาณกลางปีได้ใช้จ่ายไปประมาณ 90% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนที่อาจจะล่าช้าเล็กน้อยจะเป็นรัฐวิสาหกิจที่เป็นงบลงทุนที่ยังติดปัญหาอุปสรรคในโครงการขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามได้มีการเร่งรัดไปเรียบร้อยแล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินงานที่ผ่านมาได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะการวางรากฐานเรื่องระบบสวัสดิการ เช่น เรื่องสิทธิด้านการศึกษา สาธารณสุขที่จะมีการปรับปรุง และเรื่องหลักประกันภายหลังการเกษียณอายุราชการ โดยเฉพาะหากกฎหมายออมแห่งชาติ ออกมาการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวจะเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คนไทยที่ไม่ได้รับราชการและไม่ได้อยู่ในหลักประกันสังคมจะมีโอกาสได้รับสวัสดิการที่ครอบคลุมด้วย

ขณะที่รัฐบาลสามารถบริหารเศรษฐกิจเพื่อหยุดยั้งการถดถอยซึ่งมีความรุนแรงมากในช่วง 3 เดือนแรก และเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาจนนำมาสู่การลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และการทำหน้าที่ประธานอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 15 ได้บรรลุผลสำเร็จและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยการประชุมดังกล่าวได้ช่วยในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างดีหลังจากที่ติดลบมาในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมากรณีเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้น



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ