กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศขายทองคำน้ำหนัก 200 เมตริคตันให้ธนาคารกลางอินเดีย มูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นปริมาณเกือบครึ่งหนึ่งของทองคำที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารไอเอ็มเอฟให้นำออกขายทั้งสิ้น 403.3 ตัน
นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟกล่าวว่า "ผมชื่นชมคณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟที่อนุมัติการขายทองคำให้กับธนาคารกลางอินเดีย การทำธุรกรรมในครั้งนี้นับเป็นย่างก้าวสำคัญที่ทำให้ไอเอ็มเอฟบรรลุวัตถุประสงค์โครงการขายทองคำ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสถานะด้านการเงินของไอเอ็มเอฟให้แข็งแกร่งในระยะยาว และช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการระดมทุนช่วยเหลือประเทศยากจนด้วย"
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟอนุมัติให้นำทองคำ 403.2 เมตริคตันออกขาย โดยมีเป้าหมายที่จะระดมทุนเพื่อปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มประเทศยากจน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 8 ของปริมาณทองคำสำรองของไอเอ็มเอฟ ซึ่งไอเอ็มเอฟเป็นผู้ถือครองทองคำรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐและเยอรมนี ขณะที่นายสเตราส์-คาห์นกล่าวว่า ไอเอ็มเอฟนำทองคำสำรองออกขายเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า
ภายใต้ข้อตกลงของไอเอ็มเอฟนั้น ทองคำทั้งหมดที่นำออกขายจะต้องอิงราคาพื้นฐานตลาด รวมถึงการขายโดยตรงให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นอย่างเป็นทางการ และให้เป็นไปตามมติที่ประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ที่กรุงลอนดอนเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาว่า เป้าหมายของการนำทองคำออกขายก็เพื่อระดมทุนช่วยเหลือประเทศยากจน
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟกล่าวว่า ทางองค์กรพร้อมแล้วที่จะขายทองคำโดยตรงให้กับธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก และหากจำเป็นก็จะนำออกขายในตลาดเปิด อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเบื้องลึกว่ามีธนาคารกลางแห่งใดบ้างที่สนใจเข้าซื้อทองคำของไอเอ็มเอฟ
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญาทองคำตลาด COMEX ทะยานขึ้น 13.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,054.00 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงและข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นจะกระตุ้นความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นด้วย